คนใช้รถช้ำอีกรอบจ่อขึ้น"ดีเซล" สรรพสามิตรีดเพิ่มลิตรละ4บาท

คนใช้รถช้ำอีกรอบจ่อขึ้น"ดีเซล" สรรพสามิตรีดเพิ่มลิตรละ4บาท

คนใช้รถช้ำอีกรอบจ่อขึ้น"ดีเซล" สรรพสามิตรีดเพิ่มลิตรละ4บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงพลังงานชง กพช.เก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 4 บาท ฉวยโอกาสราคาน้ำมันโลกดิ่งลง 60 เหรียญ/บาร์เรล ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่มจากกลุ่มเบนซิน คลังประเมินรายได้เข้ารัฐเพิ่ม 6 แสนล้าน นักวิชาการหนุนปรับโครงสร้างน้ำมัน


สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ท้ายปี 2557 ที่ลดลงต่อเนื่องส่งผลให้กระทรวงพลังงาน เร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ล่าสุด หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับลดลงต่ำกว่า 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากแรงกดดันของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง

ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนต์ปรับลด ลงเช่นกัน หลังซาอุดีอาระเบียไม่มีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิต ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 63.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ 61.63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับทิศทางราคาน้ำ มันดิบเวสต์เทกซัสสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่ 58-63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ด้านน้ำมันดิบเบรนต์ที่ 62-65เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล


ชง กพช.เคาะภาษีดีเซล 4 บาท

แหล่ง ข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผย"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สัปดาห์นี้ (15 ธ.ค. 2557) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะพิจารณาการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มเบนซินและน้ำมันดีเซล ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันโดยกระทรวงพลังงานเสนอให้ควรจัดเก็บภาษีสรรพ สามิตที่ 4 บาท/ลิตร คำนวณจากต้นทุนคือ 1) ต้นทุนถนน 0.95 บาท/ลิตร 2) ต้นทุนจากการจราจรแออัด 2 บาท/ลิตร

3) ต้นทุนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0.70 บาท/ลิตร 4) ต้นทุนมลพิษอื่น ๆ0.80 บาท/ลิตร ขณะที่กลุ่มเบนซิน จะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตแบ่งเป็นเบนซิน 95ที่ 4 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) และแก๊สโซฮอล์ 91 (E10) ที่ 3.60 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ที่ 3.2 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ที่ 60 สตางค์/ลิตร

นอกจาก นี้ต้องปรับส่วนต่างราคาขายปลีกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ฉะนั้นราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10)ต้อง "สูงกว่า" น้ำมันดีเซลที่ 3-4 บาท/ลิตรราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) สูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (E10) ที่ 1-2 บาท/ลิตร ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) มีราคาสูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) 3-4 บาท ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) สูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์(E85) คิดเป็นร้อยละ 40 ขณะที่ราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ต้องต่ำกว่าน้ำมันเบนซินที่ 3-5 บาท/ลิตร

"สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาด โลกปัจจุบันทำให้การปรับโครงสร้างราคาง่ายขึ้นภาพรวมอัตราการจัดเก็บภาษี สรรพสามิต การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะสะท้อนต้นทุนในการจำหน่ายมากขึ้น การใช้พลังงานจะอยู่ในระดับเหมาะสมและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนได้มาก ขึ้น"


เก็บเข้ากองทุนกลุ่มเบนซินเพิ่ม

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของเงินที่จะเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเสนอเพื่อพิจารณาคือ น้ำมันเบนซินอยู่ที่10.70 บาท/ลิตร เก็บเพิ่มจากเดิม 55 สตางค์/ลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) อยู่ที่ 6.10 บาท/ลิตรเก็บเพิ่ม 1.45 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) ที่ 4.45 บาท/ลิตร เก็บเพิ่ม 1.50 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ที่ 1.6 บาท/ลิตรเก็บเพิ่ม 40 สตางค์/ลิตร น้ำมันดีเซลที่1.26 บาท/ลิตร ในขณะที่น้ำมันแก๊สโซฮอล์E85 ยังมีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯที่11.50 บาท/ลิตร ทั้งนี้จะเห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงจากระดับ 100 เหรียญสหรัฐในช่วงต้นปีมาอยู่ที่ระดับไม่เกิน60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ระดับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศมีราคาที่ไม่สูงมากนัก

อย่างไร ก็ตาม เมื่อโครงสร้างราคาน้ำมันสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงแล้ว และราคาน้ำมันในตลาดโลกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีก น้ำมันในประเทศโดยตรงเช่นกัน ทั้งนี้มีการคาดการณ์ถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกปี 2558 ว่าจะอยู่ในระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง แต่ในระยะยาวยังกลับมาผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวมากขึ้น ที่สำคัญกลุ่มโอเปกจะไม่ปล่อยให้ราคาน้ำมันดิ่งลงไปมากกว่านี้

ล่าสุด ประเทศแอลจีเรียและเวเนซุเอลา สมาชิกในกลุ่มโอเปก พยายามให้มีการประชุมโอเปกแบบเร่งด่วนในต้นปี"58 เพื่อกำหนดแนวทางพยุงราคาน้ำมันดิบ


รายได้รัฐเพิ่ม 1.8 แสนล้าน

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่าคงต้องรอดูว่า กพช.จะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล โดยจะปรับขึ้น 4 บาทต่อลิตรเลยหรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับว่าสถานะของกองทุนน้ำมันเป็นอย่างไร ซึ่งหากสถานะเป็นบวกก็สามารถขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลได้ เพราะบริหารจัดการราคาขายปลีกได้

"ยังไงก็ตามต้องไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ถึงจุดหนึ่งถ้ากองทุนน้ำมันเป็นบวกก็สามารถบริหารจัดการได้"

แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิตกล่าวว่า หากเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร จะทำให้กรมสรรพสามิตมีรายได้เพิ่มขึ้น 1,500 ล้านบาท/เดือน หรือ 180,000 ล้านบาท/ปี แต่หากปรับเพิ่มขึ้นทีเดียว 4 บาทต่อลิตร คาดว่าจะเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 5,000 ล้านบาท/เดือน หรือ 600,000 ล้านบาท/ปี เนื่องจากอาจมีผลต่อการบริโภคน้ำมันลดลงไปบ้างเล็กน้อย


นักวิชาการหนุนปรับภาษี

นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันสูงขึ้นจึงเสนอให้ภาครัฐเร่งปรับปรุง โครงสร้างราคาพลังงาน เพราะกองทุนน้ำมันฯ

มีสถานะเป็นบวกแล้ว ควรยกเลิกการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และยกเลิกเพดานราคาดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร โดยเสนอให้ปรับโครงสร้างสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันให้มีความเป็นธรรมต่อทุก กลุ่ม เช่น ปัจจุบันดีเซลเสียภาษีสรรพสามิต 0.75 บาทเพิ่มเป็น 3 บาท และปรับลดเงินเข้ากองทุนจาก 4.8 บาท เป็น 2.55 บาทแทน

ส่วนนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย มองว่าควรปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจาก 0.75 บาท/ลิตร เป็น 4.75 บาท/ลิตรและกำหนดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนฯบนหลักการที่ว่า เก็บเพียงเพื่อให้พออุดหนุนแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) และ (E85) นอกจากนี้ควรปรับโครงสร้างราคา LPGด้วย โดยการยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนฯจาก LPG และยกเลิกภาษีสรรพสามิตสำหรับ LPG ภาคครัวเรือน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook