สำรวจ...กระเช้าปีใหม่ ′ห้างยักษ์′แข่งคืนความสุข

สำรวจ...กระเช้าปีใหม่ ′ห้างยักษ์′แข่งคืนความสุข

สำรวจ...กระเช้าปีใหม่ ′ห้างยักษ์′แข่งคืนความสุข
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกเสียงฮือฮาและเป็นที่จับตามองมาโดยตลอด สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ย้ำเสมอว่าแต่ละมาตรการที่ออกมา ไม่ใช่มาตรการ

ล่าสุด ส่งมาตรการคืนความสุข ผ่านทางกระทรวงพาณิชย์ ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ภายใต้งาน "เทใจ คืนสุข สู่ประชาชน" ระหว่างวันที่ 24-30 ธันวาคม 2557 รวมระยะเวลา 7 วัน ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ลดราคาสูงสุดกว่า 70% เพื่อคืนความสุข ต้อนรับปีแพะที่กำลังจะมาถึง และเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อและการใช้จ่ายให้คึกคักกลับมา หลังจากที่กำลังซื้อยังคงชะลอตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ส่งผลต่อรายได้เกษตรกร

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่าการที่รัฐบาลมีการลดราคาสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน จะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ 30% หรือคิดเป็นเงินกว่า 15,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มมากขึ้น

ส่วนห้างค้าปลีก นอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าลดราคาจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว ก็เตรียมจัดโปรโมชั่นแรง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ในส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร มีสินค้าตัวไหนลดราคามากที่สุด ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขออุบไว้ก่อน เนื่องจากเป็นการแข่งขันทางการตลาด คงต้องรอลุ้นในช่วงวันแรก ในวันที่ 24 ธันวาคม ว่าค่ายไหนจะอัดโปรแรงแย่งชิงกำลังซื้อที่อั้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปี

สำหรับกลุ่มเดอะมอลล์ จะลดราคาทั้งสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า สินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมด กว่า 10,000 รายการ สูงสุด 50% สินค้าซื้อ 1 แถม 1 และสินค้าเอ็มไพรส์ ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา รวมทั้งกูร์เมต์ มาร์เก็ต และโฮม เฟรช มาร์ท ทุกสาขา โดยได้มีการประมาณการและสต๊อกสินค้าเพื่อจำหน่ายแก่ผู้บริโภคในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าสินค้าน่าจะเพียงพอรองรับการจำหน่ายสินค้าของผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสินค้าที่จำกัดการซื้อ นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 24-28 ธันวาคม กลุ่มเดอะมอลล์ ยังจัดงานลดทะลุพิกัด จำหน่ายสินค้าลดราคากว่า 80% พร้อมทั้งสินค้าซุปเปอร์ ช็อก ไพรส์ มาก่อนมีสิทธิก่อน ที่เมืองทองธานีด้วย

ส่วนกลุ่มเซ็นทรัล เตรียมลดราคาที่ ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ เดลี และเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ทุกสาขา 150 สาขา ทั่วประเทศ ประมาณ 2,000 รายการ ลดสูงสุดมากกว่า 50% ฟากเทสโก้ โลตัส เตรียมลดราคาสินค้า กว่า 5,000 รายการ จัดรายการลดสูงสุด 70% อย่างไรก็ตาม สินค้าบางประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีการลดราคามาก หรือจัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 บางรายการสินค้า อาจจะมีการพิจารณา จำกัดการซื้อ 1 ชิ้นต่อ 1 ครอบครัว เพื่อให้สินค้ากระจายถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง

ด้าน บิ๊กซี จะมีการจัดโปรโมชั่น ลดสูงสุด 10-80% สินค้ามากกว่า 1,000 รายการ ทุกประเภทของใช้ในชีวิตประจำวัน ของสด ของแห้ง ผงซักฟอก สบู่ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต เครื่องซักผ้า ทีวี เสื้อผ้า ของแต่งบ้าน รวม 20 ล้านชิ้น เช่น ข้าวแสนดี ลดราคาจาก 206 บาท เหลือ 150 บาท เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จะมีจำกัดการซื้อ แต่ขึ้นอยู่กับราคา หากลดมากก็จะลดราคาเพื่อให้สินค้ากระจายได้อย่างทั่วถึง ที่บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า บิ๊กซี มาร์เก็ต และมินิบิ๊กซี ทั่วประเทศ 625 สาขา

ทั้งนี้ ที่ขาดไม่ได้สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ คือ กระเช้าของขวัญ ที่ปีนี้แข่งขันกันแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเริ่มทำการตลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ต่อเนื่องไปถึงเดือนมกราคม 2558 จากการสำรวจพบว่า ราคาขายกระเช้าของขวัญมีราคาเริ่มต้นถูกลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นเพียงกระเช้าละ 225 บาท จากหลายปีที่ผ่านมาที่เริ่มต้น 300-400 บาทต่อกระเช้า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ และเป็นตัวเลือกเพื่อช่วยลดค่าครองชีพ

สำหรับกลุ่มเดอะมอลล์ กระเช้าของขวัญ มีราคาตั้งแต่ 400-7,000 บาท เน้นจับกลุ่มกระเช้าเฉพาะบุคคลมากขึ้น แต่จากการสอบถามยอดขายกระเช้า พบว่ากระเช้าที่ได้รับความนิยมซื้อ จะมีราคาอยู่ที่ 2,000-7,000 บาท ภาพรวมการจับจ่ายดีขึ้น แม้จะไม่ดีเหมือนปีก่อนๆ แต่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก

ส่วนกลุ่มเซ็นทรัล ราคาอยู่ที่ 489-13,000 บาท กระเช้าที่ได้รับการตอบรับดี มีราคาอยู่ในช่วง 1,500-2,500 บาท เป็นระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าลูกค้ายังมีกำลังซื้ออยู่ อย่างไรก็ตาม ทางห้างได้จัดกล่องของขวัญ เริ่มต้น 289 บาท เป็นทางเลือกเพิ่มเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และยังมีกิฟต์เซ็ตต่างๆ เพื่อเลือกซื้อเป็นของขวัญ จัดรายการกว่า 500-600 รายการ เพื่อให้เลือกซื้อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาล อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า สินค้าเฮาส์แบรนด์ของเซ็นทรัลที่มีมากกว่า 1,000 รายการ อาทิ ท็อปส์ มายช้อยส์ เป็นต้น ได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ จากที่เริ่มนำสินค้าเฮาส์แบรนด์มาจัดกระเช้าเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ยอดขายโตต่อเนื่อง แม้ว่าราคาสินค้าเฮาส์แบรนด์กับสินค้าทั่วไปไม่แตกต่างกันมากนัก

สำหรับ เทสโก้ โลตัส ถือว่ามีการจัดกระเช้าราคาถูกที่สุดในบรรดาห้างร้านต่างๆ ตั้งแต่ 225-3,000 บาท เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในการจับจ่ายหาซื้อของขวัญในช่วงปีใหม่ ราคาเริ่มต้นถูกกว่าปีที่ผ่านมา ที่เริ่มต้นที่ 280-300 บาท อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังนิยมซื้อกระเช้าที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 1,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นกระเช้าสินค้าของแห้ง เครื่องดื่ม ขณะที่ห้างบิ๊กซีจัดกระเช้าปีใหม่ ราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกับห้างเทสโก้ โลตัส คือ 299 บาท

จากการสำรวจพื้นที่บริเวณห้างสรรพสินค้าต่างๆ พบว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อของในช่วงปลายปีกันอย่างคึกคัก ส่งผลให้การจราจรค่อนข้างติดขัดและมีรถเข้าออกห้างอย่างหนาแน่นกว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ ย่านรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกพระราม 9 ที่มีห้างเซ็นทรัลแกรนด์ พระราม 9 เทสโก้ โลตัส เอสพลานาด และบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า บริเวณแยกเทียมร่วมมิตร

แต่จากการสอบถามประชาชนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยในห้าง ให้เหตุผลว่าเพราะน้ำมันมีราคาถูกลงมาก จึงไม่ค่อยกังวลต่อการเดินทางไปไหนมาไหน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใด สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการต่างๆ ของรัฐ ที่พยายามกระตุ้นกำลังซื้ออาจจะเริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้าง

แต่ยังต้องติดตามและดูกันยาวๆ ว่าการกระตุ้นกำลังซื้อปลายปีจะช่วยให้เศรษฐกิจปีนี้ผงกหัวขึ้นได้มากน้อยเพียงใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook