สปส.มึน ผู้ประกันตน แห่ลาออก′กองทุนชราภาพ′ หวังรับเบิ้ลเงินรัฐจ่ายสมทบ

สปส.มึน ผู้ประกันตน แห่ลาออก′กองทุนชราภาพ′ หวังรับเบิ้ลเงินรัฐจ่ายสมทบ

สปส.มึน ผู้ประกันตน แห่ลาออก′กองทุนชราภาพ′ หวังรับเบิ้ลเงินรัฐจ่ายสมทบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สปส.มึน ผู้ประกันตนทยอยลาออกจาก ม.40 หวังเงินก้อน ขอดูรายละเอียด เล็งจ่ายคืนบางส่วน หลัง สปส.เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สมัครเป็นผู้ประกันตน เพื่อสิทธิประโยชน์ชราภาพกรณีพิเศษ

กรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 (สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ) เป็นกรณีพิเศษ เป็นเวลา 1 ปี และเปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 โดยมียอดสมาชิกกว่า 3 แสนคนนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2558 มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงินเข้ากองทุน 100 บาท รัฐสมทบอีก 100 บาท เริ่มทยอยเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคมสาขา เพื่อยื่นความจำนงขอลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนหวังรับเงินคืนทั้งส่วนของตัวเองและรัฐจะสมทบให้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุมัติ โดยพยายามทำความเข้าใจกับผู้ประกันตนให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของมาตรา 40 ต้องการให้สะสมเงินออมไว้ใช้ยามชรา แต่หากรายใดต้องการจะลาออกเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถจ่ายให้เฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนจ่ายตามจริงเท่านั้น ส่วนเงินสมทบของรัฐยังไม่สามารถจ่ายได้ เนื่องจากยังไม่ได้ตั้งเรื่องขอเบิกจากรัฐบาล

นายโกวิท สัจจวิเศษ โฆษก สปส.กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ สปส.ได้ให้สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศจ่ายเงินเฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนสมทบเท่านั้น ส่วนที่รัฐจ่ายสมทบนั้นยังไม่มีการจ่าย เนื่องจาก สปส.อยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า หากผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ลาออกเพื่อขอรับเงินสมทบเป็นก้อนในเวลารวดเร็ว จะเข้าข่ายผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ และการจ่ายเงินสมทบในส่วนของรัฐควรจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งจะต้องออกกฎหมายลูก เพื่อจัดทำเงื่อนไขมารองรับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ อาทิ อาจจะกำหนดให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 เป็นผู้ประกันตน 1-2 ปี จึงจะสามารถลาออกและรับเงินสมทบทั้งสองส่วนได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมกราคมนี้

นายโกวิทกล่าวถึงความคืบหน้าร่างแก้ไขพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ.2554 (มาตรา 40) เพื่อขยายเวลารับสมัครผู้ประกันตนที่มีอายุเกิน 60 ปี ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ได้ส่งร่างดังกล่าวให้นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน พิจารณาเพื่อเสนอต่อ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่นายนครได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้ สปส.ทบทวนเนื้อหา เนื่องจากมีหนังสือท้วงติงจากหลายฝ่ายว่ามาตรา 40 ยังมีช่องโหว่ในหลายเรื่อง เช่น การให้ผู้ที่มีสิทธิประโยชน์ได้รับเงินบำนาญจากกองทุนอื่นๆ สามารถสมัครได้ การเปิดให้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบย้อนหลังและไม่กำหนดระยะเวลาการเป็นผู้ประกันตนก่อนลาออก ทำให้รัฐบาลจะต้องจ่ายสมทบเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่องบประมาณของรัฐ นอกจากนี้ จะศึกษาว่าการเปิดรับสมัครรอบใหม่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ จะเปิดให้จ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้หรือไม่

"สปส.ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาทบทวนร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว เพื่ออุดช่องโหว่ตามที่มีผู้ตั้งข้อสังเกต และเพื่อให้เนื้อหากฎหมายเป็นไปอย่างรัดกุม และจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย โดยจะเร่งจัดทำร่าง พ.ร.ฎ.ให้แล้วเสร็จ และเสนอต่อปลัดกระทรวงแรงงานอีกครั้งภายในเดือนมกราคมนี้" นายโกวิทกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของ สปส.พบว่าขณะนี้มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทุกทางเลือกทั่วประเทศ จำนวน 2,471,116 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 สิทธิประโยชน์เฉพาะกรณีชราภาพ จำนวน 359,000 คน การเปิดรับสมัคร

ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 อายุเกิน 60 ปี ไประหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2556-วันที่ 8 ธันวาคม 2557 โดยเปิดให้สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ถึงเดือนพฤษภาคม 2555 เป็นเวลา 32 เดือน โดยที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาต้องเป็นผู้ประกันตนก่อนจะลาออกและรับเงินสมทบทั้งส่วนของตัวเองและรัฐ ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนและทำให้มีผู้ประกันตนบางส่วนหวังจะได้เงินก้อนจากการสมทบของรัฐบาลมายื่นลาออกเพื่อขอรับเงินดังนั้นในการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 รอบใหม่ สปส.จึงมีแนวคิดจะปิดไม่ให้มีการจ่ายเงินสมทบย้อนหลัง เพราะหากคำนวณเฉพาะในทางเลือกที่ 3 ที่มีผู้ประกันตนประมาณ 300,000 คน จะทำให้รัฐต้องจ่ายเงินสมทบประมาณเดือนละ 900 ล้านบาท เป็นเงินจำนวนมากและอาจส่งผลกระทบต่อกองทุน

นายสินชัย วงศ์สังข์ทอง อายุ 72 ปี หนึ่งในผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 กล่าวว่า สมัครทางเลือกที่ 3 ส่วนภรรยาสมัครทางเลือกที่ 5 จ่ายเอง 200 บาท รัฐสมทบให้ 150 บาท เลือกจ่ายย้อนหลังคนละ 2,300 บาท เพื่อตั้งใจเก็บไว้เป็นเงินก้อนฉุกเฉิน เวลาเจ็บป่วยจะได้ไม่ต้องรบกวนลูก ส่วนเรื่องเงินบำนาญไม่ได้หวัง เพราะมีเงื่อนไขว่าต้องส่งนานถึง 35 ปี จึงจะได้สิทธิ

"ผมคงไม่อยู่นานถึงขนาดนั้น อีกอย่างเจตนารมณ์ของประกันสังคมเป็นเรื่องดี ต้องการให้คนออมเงิน แต่ก็ต้องประชา สัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจชัดเจน อย่าทำแบบคลุมเครือแล้วปล่อยให้ไปคิด ไปถามกันเอง เพราะข้อมูลจะคลาดเคลื่อน และอย่าเอาเรื่องเงินก้อน รัฐจ่ายสมทบอีกเท่าตัวมาล่อให้คนแห่ไปสมัครเหมือนที่ผ่านมา และมีคนบางกลุ่ม ตั้งใจจะไปสมัครเพื่อรอถอนเงินออกมาใช้ รู้มาว่าตอนนี้มีคนเริ่มไปถอนกันบ้างแล้ว แต่ประกันสังคมก็ยังเงียบ" นายสินชัยกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook