กําไรพลังงาน-ปิโตรฯวูบ6.6หมื่นล. สวนทางกลุ่มค้าปลีก-ขนส่งผลงานดี

กําไรพลังงาน-ปิโตรฯวูบ6.6หมื่นล. สวนทางกลุ่มค้าปลีก-ขนส่งผลงานดี

กําไรพลังงาน-ปิโตรฯวูบ6.6หมื่นล. สวนทางกลุ่มค้าปลีก-ขนส่งผลงานดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ออมสิน"ขานรับ คสช.เตรียมเงิน 2 หมื่นล้านบาท ผุดโครงการสินเชื่อเอสเอ็มอีสุขใจ กู้ไว ดอกถูก ผ่อนนาน รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท กสอ.ช่วยอีกแรง ออกสินเชื่อ 250 ล้าน โชว์ผลงานในอดีตช่วยอุตสาหกรรมรายย่อยได้ 2.3 หมื่นราย วงเงิน 1.6 พันล้าน จ้างแรงงานใหม่ 3.5 หมื่นคน

นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ 24 บริษัท เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนและผลกระทบจากราคาน้ำมันปี 2558-2559 พบว่าราคาน้ำมันที่ลงแรงในไตรมาสที่ 3 และ 4/2557 นั้น จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 4/2557 ของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีี ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2557 ของกลุ่มพลังงานลดลง 1.5 หมื่นล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมีลดลง 7,800 ล้านบาท

รวมแล้วกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะหายไป 22,800 ล้านบาท จึงคาดว่ากำไรสุทธิต่อหุ้น (อีพีเอส) ปี 2557 อยู่ที่ 93.2 บาท ทั้งนี้ หากกำไรแท้จริงของทั้ง 2 กลุ่มต่ำกว่านี้ก็อาจมีผลทางจิตวิทยาทำให้ราคาหุ้นรวมทั้งดัชนีในปี 2558 ปรับลงอีก และคาดว่าจะมีผลต่อกำไรสุทธิของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในปี 2558 ลดลงอีก 39,000 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมีจะลดลง 4,900 ล้านบาท รวมกำไรลดลง 43,900 ล้านบาท แต่กลุ่มที่ได้รับผลบวกในปีนี้คือ ค้าส่งค้าปลีก ขนส่ง สถาบันการเงินรายย่อย

นางภรณีกล่าวว่า ส่วนดัชนีหลักทรัพย์ปีนี้จะอยู่ที่ 1,670 จุด โดยไตรมาส 1 ดัชนีจะผันผวน ไตรมาส 2 จะเริ่มเห็นเงินต่างชาติไหลเข้า เนื่องจากการเมืองไทยเริ่มชัด กำไรบริษัทจดทะเบียนดี ไทยได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันลด หุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์คือกลุ่มธนาคาร และกลุ่มก่อสร้างขนาดเล็ก ซึ่งนักลงทุนได้เสนอให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบ และการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "จับตาภาวะเศรษฐกิจปีมะแม 2558 ทั้งตลาดทุน ค่าเงิน และหุ้นเด็ด" ว่า ภาพรวมอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย จะขยายตัวได้ 3.5% เงินเฟ้อลดลง การส่งออกจะขยายตัวได้ 3% และคาดว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เงินทุนไหลออกบ้างแต่ไม่รุนแรง โดยเงินที่ไหลออกเป็นเงินจากสหรัฐที่เข้ามาตลาดทุนไทย แต่ยังมีเงินจากฝั่งยุโรปและญี่ปุ่นถ่วงดุลอยู่ ส่วนอัตราดอกเบี้ยคาดว่า ธปท.จะยังคงไว้ที่ 2% ตลอดทั้งปีนี้ ขณะที่ค่าเงินบาทน่าจะอยู่ที่ 34.50 บาทต่อเหรีญสหรัฐ เกาะกลุ่มไปกับเงินหยวนของจีน

นายกวี ชูเกษมกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในกรอบการเติบโตต่อไปอีก 2-3 ปี โดยปีนี้ดัชนีหุ้นอยู่ที่ 1,600-1,700 จุด ส่วนปี 2559 มีโอกาสที่จะเห็นดัชนีแตะ 1,800 จุด ทำนิวไฮ สูงกว่าปี 2540 ที่เคยแตะระดับ 1,789 จุด

นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังมีโอกาสที่จะเป็นแพะภูเขา โดยพระเอกที่จะช่วยผลักดันมี 2 ปัจจัย คือ การลงทุนภาครัฐต่างๆ และภาคเอกชน รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ประเมินว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 3.6-4.4% ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ 2-3%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook