ดีลซื้อหุ้นโรงกลั่นบางจากล่มแล้ว "พิชัย" ประธานบอร์ดแจ้งพนักงาน-ปตท.ไม่ขาย
เข้าเค้าดีลซื้อหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากล่มแล้ว หลัง "พิชัย ชุณหวชิร" ประธานกรรมการบางจากเรียกประชุมพนักงานแจ้งสั้น ๆ "ปตท.ไม่ขายหุ้นบางจากแล้ว" พร้อมเคลียร์ตัวเองกรณีใช้บริษัท BCP เข้าไปยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นแข่งกับกลุ่มนายประยุทธ ประกาศลั่นทำไปเพื่อต้องการให้องค์กรอยู่รอดในธุรกิจและบางจากต้องปรับตัว จับตา ปตท.หารือกระทรวงการคลัง นำกองทุนวายุภักษ์เข้ามาซื้อหุ้นได้หรือไม่
การขายหุ้น 27.22% ที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถืออยู่ในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ตามมติคณะกรรมการบริษัท ปตท.โดยอ้างว่า เป็นการลดการผูกขาดของ ปตท.ในกิจการโรงกลั่นน้ำมัน กลายเป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากพนักงานบริษัทบางจากอย่างกว้างขวาง เมื่อกลุ่มทุนที่สนใจจะเข้ามาซื้อโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็น "กลุ่มทุนการเมือง" และเลยเถิดไปถึง "ข้อสงสัย" ในการกระทำของฝ่ายบริหารบริษัทบางจาก ที่ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อยื่นเสนอราคาซื้อโรงกลั่นน้ำมันของตัวเองด้วย
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานความเคลื่อนไหว หลังมีผู้ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจาก 2 กลุ่มคือ กลุ่มของนายประยุทธ มหากิจศิริ ในนามบริษัทเมอร์ริเมดไทม์ กับกลุ่มของนายพิชัย ชุณหวชิร พร้อมพวก ในนามบริษัทบีซีพี คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP และมีแนวโน้มว่า คณะกรรมการ ปตท.จะไม่รับข้อเสนอของทั้ง 2 กลุ่ม ในขณะที่พนักงานบริษัทบางจากเองก็ได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความกังวลกรณีโรงกลั่นน้ำมันบางจากจะตกไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนการเมือง
ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานคณะกรรมการบางจาก กับนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่บางจาก ซึ่งมีชื่อปรากฏเป็น "กรรมการ" ของบริษัท BCP กันอยู่ 2 คน ได้เรียกพนักงานบริษัทบางจากประชุมด่วนที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อชี้แจง "ข้อสงสัย" ของพนักงานใน 2 ประเด็นด้วยกัน คือ 1)บริษัท ปตท.แจ้งกลับมาแล้วว่า ปตท.ไม่ต้องการขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากแล้ว กับ 2)ยืนยันกับพนักงานบางจากว่า ไม่มีนักการเมืองหนุนหลังการเข้ามาเสนอซื้อหุ้นบางจากของบริษัท BCP พร้อมกับอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องการใช้บริษัท BCP เข้าไปซื้อหุ้นบางจากในครั้งนี้ว่า "ต้องการให้องค์กรอยู่รอดในธุรกิจ" และหากพนักงานบางจากคนใดมีข้อสงสัยในเรื่องนี้ "สามารถหารือกับผมได้โดยตรง"
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามพนักงานบางส่วนหลังการชี้แจงของประธานบอร์ดและกรรมการผู้จัดการใหญ่บางจากสิ้นสุดลง ส่วนใหญ่เชื่อว่าที่ผู้บริหารต้องออกมาชี้แจง เป็นเพราะเข้าไปพัวพันกับบริษัท BCP และ "สงสัย" ว่า บริษัทนี้จะหาเงินจากไหนมาซื้อหุ้นบางจาก จำนวน 27.22% จาก ปตท. ซึ่งหากคิดในราคาตลาดจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวในบริษัท ปตท.กล่าวถึงการขายหุ้นบริษัทบางจากในครั้งนี้ว่า อยู่ในความรับผิดชอบของผู้บริหาร ปตท.เพียงไม่กี่คน แต่ "ยอมรับ" ว่า ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากหลายฝ่ายที่เป็นห่วงบ้านเมือง และสั่งว่า ปตท.จะต้องไม่ขายหุ้นบางจากให้กับกลุ่มทุนการเมือง ในส่วนนี้จึงเป็นที่มาให้ ปตท.เข้าไปหารือกับกระทรวงการคลัง ถึงวิธีการที่จะให้ "กองทุนวายุภักษ์" เข้ามาซื้อหุ้นแทนทั้งหมด
"เราเองก็กังวลว่าวิธีการที่จะให้กองทุนวายุภักษ์ เข้ามาถือหุ้นแทนในส่วนที่ ปตท.ถืออยู่นั้นจะได้รับการต่อต้านหรือไม่ เนื่องจากเจตนารมณ์ในการขายหุ้นบางจากก็คือ ลดการผูกขาดในกิจการกลั่นน้ำมัน ในขณะที่บริษัท ปตท.เอง ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถึง 3 ได้แก่ กระทรวงการคลัง (51.11%)-กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 โดย บลจ.กรุงไทย (7.45%) และกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 โดย บลจ.เอ็มเอฟซี อีก 7.45% หากจะให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปถือหุ้นในบริษัทบางจากอีกก็จะกลายเป็นว่า รัฐบาลกำลังผูกขาดกิจการโรงกลั่นน้ำมันเข้าไปอีก" แหล่งข่าวกล่าว