สุเทพ เล็งลดนำเข้าปาล์มน้ำมัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เตรียมเสนอที่ประชุมวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) ลดการนำเข้าปาล์มน้ำมันจากที่อนุมัติไว้ 120,000 ตัน เพื่อให้เกิดความสมดุลกับผลผลิตที่จะออกมาในเดือน มี.ค.นี้ และไม่เห็นด้วยที่จะขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสูงกว่า 47 บาท
แหล่งข่าวจากผู้ผลิตน้ำมันปาล์มแนะทางออกว่า รัฐบาลควรนำเข้าให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด พร้อมปรับราคาขายให้เหมาะสมตามต้นทุนที่แท้จริง มิฉะนั้นปัญหานี้จะยังคงเรื้อรังต่อไป ขณะเดียวกันหน่วยงานเกี่ยวข้อง คือ กระทรวงพลังงาน ควรเข้าร่วมแก้ปัญหาด้วย เนื่องจากน้ำมันปาล์มได้ถูกนำไปใช้ในภาคพลังงานประมาณ 25,000-30,000 ตัน
สำหรับการนำเข้าน้ำมันปาล์มล็อตที่ 2 กว่า 100,000 ตันนั้น เห็นว่า เป็นจำนวนมากเกินไป เนื่องจากผลผลิตปาล์มกำลังจะทยอยออกมาในเดือน มี.ค. ทั้งที่จริงแล้วควรนำเข้าไม่เกิน 10,000-20,000 ตันเท่านั้น
เช่นเดียวกับนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทยอยนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ เพื่อให้ราคาในประเทศปรับลดลง
ขณะที่ปริมาณความต้องการน้ำมันปาล์มดิบทั้งหมดปีนี้อยู่ที่ 1.8 ล้านตัน แต่หากผลผลิตปาล์มน้อยกว่าที่คาดการณ์ นายอนุสรณ์เห็นว่า รัฐบาลอาจเปลี่ยนน้ำมันดีเซลพื้นฐานเป็น บี 3 หรือ บี 4 แทนจำหน่าย บี 5
การขาดแคลนน้ำมันปาล์ม ทำให้เจ้าของร้านอาหารตามสั่งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ที่เคยใช้น้ำมันไก่มาทำอาหารทดแทน ยังประสบปัญหาราคาน้ำมันไก่ขึ้นราคาเป็นกิโลกรัมละ 45 บาท จึงจำเป็นต้องปรับราคาอาหารขึ้นอีกจานละ 5 บาท
แต่ก็กลายเป็นโอกาสให้นายเอกชัย อาจละออ พ่อค้าผลไม้ในจังหวัดอ่างทอง รับน้ำมันหมูแบ่งบรรจุถุงขาย ในราคาถุงละ 50 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับน้ำมันปาล์ม 1 กิโลกรัม ที่ราคา 63 บาท ทำให้ประชาชนซื้อเป็นจำนวนมาก