เอสเอ็มอี "กล้วยหอม" ส่งตรงโลตัส โกยรายได้เฉลี่ยเดือนละ 5 ล้านบาท

ต้องยอมรับว่าเกษตรกรบางส่วน ได้รายได้เป็นกอบเป็นกำจากการปลูกพืช ที่เป็นที่ต้องการของตลาด และในช่วงเทศกาลตรุษจีน กล้วยหอม กลายเป็นสินค้าที่เทสโก้บอกว่า ขายดีที่สุด ช่วงเทศกาล กล้วยหอมต้องเพิ่มยอดขายถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียว

ไอเดียที่น่าสนใจก็คือ ไม่มีพ่อค้าคนกลาง โดยทางเทสโก้ โลตัส ต้องซื้อผ่านเกษตรกรโดยตรง กับ บริษัท วัน บานาน่า จำกัด เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาและเข้าไปพัฒนาระบบการผลิต การขนส่งไม่ให้เกิดการสูญเสีย และวางแผนการผลิตร่วมกัน เพื่อเพิ่มผลผลิต และกระจายสินค้าให้กับเทสโก้ทุกสาขา เพื่อให้กล้วยหอม วัน บานาน่า มีขายตลอดทั้งปี

คุณเฉลิมชัย เณรเถื่อน เจ้าของวัน บานาน่า กล่าวว่า ส่งกล้วยหอมให้เทสโก้มาสิบปีแล้ว โดยผ่านทางซัพพลายเออร์ แต่เมื่อปีที่ผ่านมา ทางเทสโก้มีการเข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีศักยภาพส่งตรงกับทางเทสโก้โดยตรงโดยจัดส่งยังศูนย์กระจายสินค้าเพื่อกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ

ปัจจุบันเรามีพื้นที่ปลูกกล้วยหอม1,700ไร่ และมีลูกไร่ หรือพันธมิตร อีก 500 ไร่ รวมแล้วกว่า 2,200 ไร่ ตั้งอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย 80 เปอร์เซ็นต์ ส่งให้กับโลตัส หรือราวๆ 2 หมื่นตันต่อปี

สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน เฉลิมชัยกล่าวว่า ช่วงเทศกาลจะขายกล้วยหอมมากกว่าปกติถึง 3 เท่า ทางเทสโก้จะวางแผนร่วมกันมาก่อนช่วงเทศกาล 1 ปี เพื่อให้ปลูกกล้วยหอมให้ทันช่วงเวลา จากนั้นจะมีการแจ้งมาก่อนหนึ่งเดือนคือในเดือนมกราคม 2558 เพื่อให้เกษตรกรเตรียมตัว และเตรียมตัดบรรจุ ก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีน 1 อาทิตย์

โดยผลิตภัณฑ์จะมีการแพ็ก 1 หวี 5 ลูก 4 ลูก และ 1 ลูก สำหรับครอบครัวเล็ก ๆ ในปัจจุบัน ทำให้สินค้าสามารถที่จะตอบโจทย์คนหลายๆ กลุ่มได้

ด้านเทสโก้ โลตัส คุณพรเพ็ญ นาถพิริยรัตน์ รองประธานกรรมการฝ่ายกฎหมายการค้าและเทคนิค กล่าวเสริมว่า เทสโก้มีความต้องการกล้วยหอมในช่วงเทศกาลตรุษจีนประมาณ 300 ตัน ซึ่งต้องเป็นกล้วยที่มีความสมบูรณ์ อวบ ใหญ่ และมีเหลี่ยมน้อยถึงไม่มี เพื่อรสชาติที่อร่อย หวาน และเน้นของสดส่งใหม่ในช่วงเทศกาลอีกด้วย

"คนยังมีความเชื่อว่ากล้วยมีความหมายถึงความร่ำรวย และรักสามัคคี พี่น้องชาวจีนจึงนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเทศกาล โดยเราเริ่มขายระหว่างวันที่ 15-18 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ โดยใช้นโยบาย เรื่องถูกสุดสุด ถูกหลุดโลก เพราะฉะนั้นราคาของเราจะเป็นที่สนใจและพึงพอใจของลูกค้าในช่วงเทศกาล"

และหลังจากที่เข้าร่วมกับโลตัสเฉลิมชัยมียอดเฉลี่ยต่อเดือน5ล้านบาทซึ่งเพิ่มจากหลายๆ ปีที่ผ่านมา เขามองว่า การปรับปรุงต่างๆ มีต้นทุน แต่ก็ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นและกำไรมากขึ้นด้วย เนื่องจากของเสียน้อยลง จากเมื่อก่อนมาก เรามีของที่ไม่ได้ขนาด หรือช้ำน้อยลง และในส่วนนี้เราจะส่งให้กับโรงงานแปรรูปที่นำไปทำเบเกอรี่ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

เฉลิมชัยกล่าวด้วยว่า ตอนนี้ตลาดกล้วยหอมมีการเติบโตอย่างมากโดยเฉพาะในปทุมธานี มีเกษตรกรที่หันมาปลูกกล้วยหอมเพิ่มขึ้น เขาว่าแทบจะไม่พอขาย เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องรู้จักพัฒนาผลผลิต ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งในอนาคต เฉลิมชัยมีแผนที่จะส่งออกร่วมกับทางโลตัสในต่างประเทศอีกด้วย โดยโลตัสเตรียมที่จะส่งกล้วยหอมวัน บานาน่าในกลุ่มเทสโก้ อาเซียน ก่อนแล้วค่อยๆ ขยายไปในกลุ่มยุโรป และ UK ต่อไป

ส่วนเรื่องของความเสี่ยงจากการมีลูกค้าหลักเพียงรายเดียวคือ เทสโก้นั้น เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า ความต้องการในประเทศมีจำนวนมาก แทบไม่พอรับประทาน ซึ่งตอนนี้ก็มีซัพพลายเออร์หลายรายมาติดต่อ แต่ตอนนี้เราก็ยังส่งเฉพาะโลตัสที่เดียวเท่านั้น