8 กลยุทธ์การขายในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ

8 กลยุทธ์การขายในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ

8 กลยุทธ์การขายในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงที่สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ค่อยดี บริษัทขนาดใหญ่นำมาตรการต่าง ๆ มาใช้จัดการกับปัญหาการชะลอตัว เช่น ลดคนงาน ลดวันทำงาน หรือตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก แต่ไม่ได้หมายความว่ากิจการขนาดเล็กอย่าง SME ต้องลดการขายไปด้วย คุณยังคงสามารถขายสินค้าในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์สักหน่อย มาดูกันว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ยอดขายไม่ตก

1.อย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน การที่ข่าวออกมาว่าสภาพเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง ไม่ได้หมายความว่าจะกระทบกับยอดขายสินค้าของคุณ กำลังใจและความคิดของคุณเป็นสิ่งสำคัญมากต่อความสำเร็จ ขอให้คิดถึงและสนใจในเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้ ถึงแม้ว่าจะทำใจไม่ง่ายนักที่จะคอยมองโลกในแง่ดี แต่เชื่อเถอะว่ากำลังใจสำคัญที่สุด

2.จำกัดกลุ่มเป้าหมาย พนักงานขายหลายคนใช้วิธีเหวี่ยงแหเพื่อจับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใกล้ วิธีการนี้ไม่ดี เพราะคุณจะเสียเวลาไปโดยไม่จำเป็น ดังนั้นแทนที่จะโทรศัพท์หาลูกค้าร้อยราย ให้กำหนดไปเลยว่าใครที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ หากคุณไม่ทราบว่ากลุ่มลูกค้าคุณมีลักษณะอย่างไร ให้คุณหันกลับไปดูลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน แล้วตอบให้ได้ว่า ใครเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ คุณช่วยพวกเขาแก้ปัญหาอะไร ทำไมเขาจึงทำธุรกิจหรือซื้อสินค้ากับคุณ ถ้ายังไม่ทราบคำตอบก็ให้ถามลูกค้าโดยตรง

3.อย่าคิดว่าจะขายให้ใครก็ได้ หากคุณคิดแบบนี้แปลว่าคุณไม่รู้จะขายให้ใคร คุณควรใช้พลังที่มีอยู่อย่างฉลาด ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายแนะนำว่า ในช่วงแบบนี้คุณควรจำกัดการหาลูกค้าใหม่ไว้ที่ 25 รายก็พอ

4.ใช้วิธีโฆษณาที่หลากหลาย เมื่อคุณกำหนดได้แล้วว่าใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย ให้เริ่มสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาผ่านการโฆษณาต่างๆ เช่น อีเมล์ โทรศัพท์ จดหมาย จัดงานเปิดตัว เป็นต้น แต่อย่าลืมว่าต้องวางแผนและกำหนดเวลาให้ดี

5.การนำเสนอต้องชัดเจน คุณต้องแน่ใจว่าการนำเสนอของคุณทุกครั้งเมื่อพบกับว่าที่ลูกค้าหรือลูกค้าปัจจุบันนั้น ตอบโจทย์ของพวกเขาได้จริง คุณไม่ต้องไปเล่าเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับบริษัท เช่น เปิดมานานแค่ไหน มีใครเป็นหุ้นส่วน ฯลฯ แต่ให้เน้นไปในส่วนที่ว่าเขาจะได้อะไรจากการซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ หากสินค้าของคุณช่วยลดค่าใช้จ่ายให้เขา ก็ให้บอกไปเลยว่าเท่าไหร่ หากสินค้าของคุณจะช่วยเพิ่มผลผลิตหรือลดข้อผิดพลาดได้ ก็ให้บอกไปเลยว่าลดได้อย่างไร การตัดสินใจซื้อของลูกค้าในขณะนี้อยู่ที่ความคุ้มค่ามากกว่าเรื่องอื่นใด


6.ใกล้ชิดกับลูกค้า หวังว่าถึงตอนนี้คุณยังคงมีสัมพันธภาพอันดีกลับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันอยู่ แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเชื่อมสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ลองมองหาหนทางว่าคุณจะช่วยแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในบริษัทลูกค้าได้อย่างไร นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องขายสินค้าเพิ่ม แต่หมายความว่าคุณอาจเป็นคนกลางช่วยหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยหรือแนะนำเรื่องต่างๆ

7.ห้ามหยุดการประชาสัมพันธ์ อย่ามุดเข้าไปซ่อนตัวในถ้ำแล้วรอจนกว่าเศรษฐกิจดีจึงค่อยออกมา ถึงป่านนั้นลูกค้าก็ลืมคุณไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องสร้างเครือข่ายให้ถูกสถานที่และเวลา เช่น คุณอาจจะเขียนบทความลงในนิตยสารที่เกียวข้องกับธุรกิจ รับปาถกฐาหรือเป็นสปอนเซอร์ให้งานประชุมต่างๆ หรืออาจไปเป็นอาสาสมัครงานสังคมก็ได้ กลุ่มเป้าหมายอาจจะยังไม่มีงบที่จะซื้อสินค้าของคุณ ณ ขณะนี้ แต่หากคุณออกสังคมให้เห็นให้เป็นที่รู้จักบ่อยๆ แล้ววันหนึ่งเมื่อพวกเขาจะซื้อ เขาอาจเลือกซื้อสินค้าจากคุณมากกว่าจากคู่แข่งก็เป็นได้

8.ลับคมความรู้ ด้วยความสามารถและทักษะที่คุณมีในการทำธุรกิจส่งผลให้คุณเป็นคุณจวบจนทุกวันนี้ก็จริง แต่คุณจะไปต่อลำบากหากไม่มีการฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนแบบนี้ คุณควรฝึกทักษะการคิดด้วยการตั้งคำถามยาก ๆ ให้ตัวเองตอบ เช่น ลูกค้ามีกระบวนการซื้อที่เปลี่ยนไปอย่างไร คุณกำลังเผชิญกับความท้าทายอะไร อะไรที่จะทำให้ลูกค้าพอใจได้ในช่วงนี้และในอนาคต

นอกเหนือจากภาษีแล้ว เศรษฐกิจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งซึ่งขึ้นๆ ลงๆ

ปีนี้ยิ่งท้าทายมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้าไม่ได้ คุณต้องฉลาดมากขึ้น กำหนดเป้าหมาย ทำงานหนัก และพร้อมที่จะประสบความสำเร็จในช่วงเศรษฐกิจหนักๆ แบบนี้

เรื่อง : คัมภีร์เงิน

Create by smethailandclub.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook