เปิดหน้า ราชาที่ดิน จ่อจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอ่วม

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

เปิดชื่อราชาที่ดิน ทั้งบรรดาเจ้าสัว องค์กร นักการเมือง ที่ต้องเสียภาษีฯอ่วม หากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกประกาศใช้

กระแสต่อต้านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กำลังเข้มข้นทุกขณะ หลายฝ่ายทั้งพรรคการเมือง นักธุรกิจ และชนชั้นกลางต่างคัดค้านแนวนโยบายดังกล่าว แต่ดูเหมือนรัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าต่อ โดยพยายามจะชี้แจงเหตุผลความจำเป็นต่างๆนานา ก่อนที่จะสรุปกันใน ครม.อีกครั้งหนึ่ง

ประเด็นที่ถูกนำมาคัดค้านหนักก็คือ ภาษีในส่วนที่เก็บจากที่อยู่อาศัย ไม่ว่า บ้าน คอนโด ทาวเฮาส์ ฯหากราคาเกินที่กำหนดขึ้นต่ำไว้จะถูกเรียกเก็บภาษีตามโครงสร้างใหม่กันไปตามลำดับ ตามมูลค่ากันไป

แต่ในส่วนของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ถูกพูดถึงมากนักก็คือ ภาษีในส่วนที่เก็บจากที่ดิน ซึ่งประเด็นนี้บรรดาผู้ที่เดือดร้อนรับรองได้ว่าเป็นระดับเศรษฐีเจ้าของที่ดิน ที่กว้านซื้อเอาไว้จำนวนมาก และในผืนที่ปล่อยให้รกร้างไม่ได้ทำกินจะมีอัตราภาษีค่อนข้างสูง

แม้ในทางปฏิบัติบรรดาเศรษฐีที่มีที่ดินจำนวนมาก ซึ่งรู้ทิศทางล่วงหน้า ได้ปรับตัวหรือลงมาจัดการพื้นที่ หันมาทำการเกษตรเพื่อจะได้มีฐานภาษีต่ำๆ โดยอัตราภาษีตามที่กระทรวงการคลังกำหนดเพดานไว้สำหรับที่ดินเพื่อการเกษตรมีเพดาน 0.05 % ขณะที่ดินเพื่อการพาณิชย์และที่รกร้างว่างป่าวมีเพดานที่ 0.5 %

เราลองมาย้อนดูข้อมูลของบรรดาเจ้าสัวและองค์กรที่ถือครองที่ดินจำนวนมาก จากการสำรวจของ กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (องค์กรพัฒนาเอกชน) ที่สำรวจไว้เมื่อปี่2557 ที่ผ่านมาว่ามีใครกันบ้าง มาดูกันครับ

อันดับ 1 ตระกูล "สิริวัฒนภักดี" ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น็อนแอลกอฮอล์ พัฒนาที่ดิน การเกษตร ฯลฯ น่าจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศมากที่สุดกว่า 6.3 แสนไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่าง ๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์ คือ ที่ดินในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีรวม 1.2 หมื่นไร่, ที่ดินในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1.5 หมื่นไร่

อันดับ 2 "ตระกูลเจียรวนนท์" ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่มซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม บมจ.ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 หมื่นไร่

อันดับ 3"บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดิน 4.44 หมื่นไร่

อันดับ 4 "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ปัจจุบันมีที่ดินรวมประมาณ 3 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้ราว 7% ปล่อยเช่าสร้างรายได้เชิงพาณิชย์

อันดับ5 บมจ.ไออาร์พีซี ผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ มีที่ดินรวมประมาณ 1.7 หมื่นไร่ แปลงใหญ่อยู่ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

อันดับ 6 "ตระกูลมาลีนนท์" กลุ่มทุนธุรกิจสื่อสารถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่
อันดับ 7 "นายแพทย์บุญ วนาสิน" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี มีที่ดินในมือประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1 พันไร่

อันดับ 8 "วิชัย พูลวรลักษณ์" อดีตผู้ก่อตั้งโรงภาพยนตร์เครืออีจีวี ซึ่งที่ผ่านมาเบนเข็มมารุกธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม "วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้" ครอบครองอยู่ 7-8 พันไร่แปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีประมาณ 3 พันไร่ฯลฯ

อันดับ 9 ตระกูล "จุฬางกูร" อาณาจักรซัมมิท คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่วงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ มีที่ดินทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 5-6 พันไร่ เช่นสนามกอล์ฟซัมมิทฯ ที่บางนาและเชียงใหม่, ที่ดิน 100 ไร่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นต้น

อันดับ 10 "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" ผู้ก่อตั้งโบนันซ่า มีที่ดินในเขาใหญ่รวม 5 พันไร่

อันดับ11 "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่มีธุรกิจให้บริการเดินรถไฟฟ้าและธุรกิจพัฒนาที่ดิน ก็มีที่ดินสะสมไม่ต่ำกว่า 1 พันไร่ เช่นเดียวกับ "บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" มีที่ดินทั่วประเทศรวมประมาณ 2 พันไร่

อันดับ 12 ตระกูล "ภิรมย์ภักดี" เจ้าของธุรกิจเบียร์สิงห์ ที่บุกเบิกธุรกิจด้านการเกษตรมานาน และปัจจุบันขยับมารุกธุรกิจอสังหาฯเต็มตัว ถือครองที่ดินทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 3-4 พันไร่ โดย "ปิยะ ภิรมย์ภักดี"เจ้าของไร่พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีที่ดินในเขาใหญ่ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันไร่

อันดับ13 ตระกูล "กฤษดานนท์" อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.กฤษดานครครอบครองที่ดินย่านบางนา-ตราด ประมาณ 4,000 ไร่

ขณะอดีตนักการเมือง ก็มีที่ดินถือครองกันไม่น้อยเช่นกันอย่างเช่น
นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.2,030 ไร่
นายบรรหาร ศิลปอาชา 2 พันไร่ อยู่ในบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ และนนทบุรี
นายเสนาะ เทียนทอง และนางอุไรวรรณ เทียนทอง 1,900 ไร่
นายอนุชา บูรพชัยศรี 1,284 ไร่
นายอดิศักดิ์ โภคสกุลนานนท์ 1,197 ไร่
นายทศพร เทพบุตร ถือครองที่ดิน 1,095 ไร่,
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 1,095 ไร่,
นายสุชน ชามพูนท 1,060 ไร่,
นายชัย ชิดชอบ และภรรยา 854 ไร่,
นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ 755 ไร่ ฯลฯ