3 คำที่ทำให้ความฝันเป็นจริง!!

3 คำที่ทำให้ความฝันเป็นจริง!!

3 คำที่ทำให้ความฝันเป็นจริง!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อ้าว!! ยกมือขวาแล้วร้องพร้อมกันนนนน

“จะออกไปแตะขอบฟ้า
แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ
มองไปไม่มีหนทาง
ชีวิตฉันต้องล่มลงใช่ไหม”
.
.
.
.
…………

หลายคนที่กำลังพยายามใช้ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการทำความฝันให้เป็นจริง ก็มักมีหลายสิ่งอุบัติขึ้นมาดับฝันเราซะงั้น สิ่งที่ว่านี้ประกอบด้วยคำประนามหยามเหยียดต่างๆนานาว่า ….

“แกมันไม่เก่ง ทำไม่ได้หรอก”
“อย่าทำเลยเสียเวลาเปล่าๆ”
“สภาพอย่างนี้อย่าฝันไกลเกินไป อยู่เฉยๆดีกว่ามั้ง”
“ห่วยแตกไร้สาระ หยุดทำไปเลยดีกว่า”

เมื่อได้รับฟังมากๆจนทำให้บางคนเริ่มถอดใจแล้วคิดว่าความฝันที่ทำอยู่นี้เราจะทำได้ไหม มันคือสิ่งที่ใช่กับตัวเองหรือเปล่า มันดูไม่มีอนาคตจริงหรอ เราเลิกฝันแล้วไปทำอย่างอื่นดีไหม บลาาาา…. คิดเลยเถิดมากขึ้นเรื่อยๆจนคิดไปไกลว่า “ชาตินี้ตรูเกิดมาเพื่อ!!”

ไม่มีใครดับฝันเรา นอกจากความคิดเราเอง

เสียงเตือนจากคนรอบข้างเราควรรับฟังไว้เพื่อระมัดระวังในการตัดสินใจของตัวเอง แต่ไม่ควรให้มาพังความฝันของเราให้ถล่มลงมา จงมั่นคงและภักดีกับความฝันแล้วมันจะดึงดูดโอกาสดีๆเข้ามาเอง สิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุด คือ “ความชัดเจน” ยิ่งภาพความฝันของเราชัดเจนกว่าระบบ HD แล้วหละก็ ให้เราเตรียมรอยยิ้มกว้างๆรอต้อนรับความสำเร็จล่วงหน้าไว้ได้เลยนะจ๊ะเพราะมันจะมาแบบไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะฝันไปไกลถึงวันนั้นให้เราเริ่มต้นกันที่ 3 คำนี้ก่อนนะคะ

3 คำที่จะทำให้ฝันเป็นจริง!!

“อะไร เท่าไหร่ เมื่อไหร่”

อะไร คือ เป้าหมายพิชิตฝันที่เราต้องทำให้ได้
เท่าไหร่ คือ จำนวนเงินที่ต้องใช้เพื่อให้ฝันเป็นจริง
เมื่อไหร่ คือ เวลาที่คาดว่าฝันของเราจะสำเร็จ

ตัวอย่างการตั้งความฝันที่ชัดเจนเวอร์ๆ ^_^

==> เลิกบุหรี่ให้ได้ภายใน 3 เดือนจะได้ประหยัดรายจ่าย 2,000 บาท
==> ช็อปปิ้งให้น้อยลงเหลือเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท
==> เก็บเงินในกองทุนรวมให้ได้ 100,000 บาทภายใน 1 ปี
==> เก็บเงินไปเที่ยวฮ่องกงให้ได้ 15,000 บาทภายใน 6 เดือน

ตั้งเป้าหมายความฝันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ลงมือทำซิจ๊ะที่รัก แต่พอมองเห็นตัวเลขที่ตั้งใจจะทำให้ได้ก็เริ่มท้อละ มันเยอะน๊าแล้วเราจะทำได้หรอ อืมมมมม…กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวนะจ๊ะ มันเหมือนกับภาพจิ๊กซอร์ที่ต้องเริ่มต่อจากชิ้นเล็กๆเข้าด้วยกัน ต่อกันไปเรื่อยๆจนกลายเป็นความสำเร็จที่เป็นภาพใหญ่ที่สวยงาม

แหม…หลักการดูดีเชียวแล้วมีคำอธิบายที่มันเข้าใจง่ายและเห็นภาพชัดกว่านี้มีไหม!!

อยากได้ตัวอย่างอภินิหารเงินออมก็จัดให้ จากบทความก่อนหน้านี้เรื่อง “6 ที่สุดของวิธีออมเงินขั้นเทพ” ( http://www.aommoney.com/?p=5816 ) ทำให้เราค้นพบอะไรบางอย่างที่เห็นแล้วยังทึ่งในความละเอียดของเจ้าของกระทู้ว่าคิดได้ไงเนี้ย!!

ดูภาพตามกันไปนะจ๊ะ ภาพทางซ้ายเป็นการแบ่งเงินตามเป้าหมายที่หลายคนเคยเห็นหรืออาจจะเคยทำมาบ้างแล้ว แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ภาพด้านขวาที่เป็นลายมือจดบนกระดาษ มันต้องชัดเจนแบบนี้ซิ เพราะเป็นการวางเป้าหมายที่ชัดเจนว่าแต่ละวันจะต้องทำอะไรเพื่อให้เป้าหมายใหญ่ประสบความสำเร็จ จากภาพอาจจะไม่ชัด เราจึงนำมาพิมพ์ใหม่ที่ภาพด้านล่าง

จากภาพด้านขวามือแบบชัดเจน

จากภาพนี้จะเห็นว่าเป้าหมายของผู้ออมนั้นชัดเจนมาก คือ “อะไร เท่าไหร่ เมื่อไหร่”

ตัวอย่างกระปุกเก็บเงินจากเป้าหมาย “ไปเที่ยวเชียงใหม่”
อะไร ⇒ ไปเที่ยวเชียงใหม่
เท่าไหร่ ⇒ จำนวนเงิน 10,000 บาท (ต้องหาเพิ่ม 8,800 บาท)
เมื่อไหร่ ⇒ วันที่ 20-22 ก.ย. 57

เป้าหมายใหญ่จากเงินที่ต้องเก็บ 10,000 บาท ถ้าจะเก็บครั้งเดียวเลยที่ 10,000 บาทก็อาจจะยากสำหรับบางคน ดังนั้น เราควรย่อยเป้าหมายให้เล็กลงเป็นรายเดือน รายสัปดาห์หรือรายวัน เพื่อที่เราจะได้ไปถึงเป้าหมายด้วยจิตใจที่ฮึกเหิมมากขึ้น สู้โว้ยยยย!!

เราลองมาเปรียบเทียบว่าอันไหนง่ายกว่ากัน ลองดูน๊า
เที่ยวเชียงใหม่เก็บเงินครั้งเดียว 10,000 บาทหรือเก็บเงินวันละ 120 บาท
เที่ยวมาเก๊าเก็บเงินครั้งเดียว 15,000 บาทหรือเก็บวันละ 115 บาท
เที่ยวเกาะล้านเก็บเงินครั้งเดียว 5,000 บาทหรือเก็บวันละ 55 บาท

“จะออกไปแตะขอบฟ้า
สุดท้ายแม้โชคชะตาไม่เข้าใจ
มองไปไม่มีหนทาง
แต่รู้ว่าฉันต้องไปต่อไป

ตรงเส้นขอบฟ้าสีคราม
ความหวังยังนำทางฉันใช่หรือไม่
คำตอบอยู่กลางคลื่นลม
ชีวิตแม้ต้องล่มลงตรงไหน
แต่ฉันก็ยังยืนยันที่จะไป”

Cr:พี่ตูนบอดี้สแลมได้กล่าวไว้ ^_^

ชีวิตคนเราทุกวันนี้ก็เหมือนอยู่กลางทะเล ที่มีอุปสรรคชีวิตเป็นคลื่นลมผ่านเข้ามาทดสอบเราบ่อยๆหลายครั้งมองไม่เห็นทางออกว่าจะผ่านมันไปได้อย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่เรายึดมั่นมาตลอด นั่นคือ “ความหวัง” ที่สักวันจะต้องผ่านมันไปให้ได้ โดยย่อยทุกอย่าง(ความฝันหรือปัญหา) ให้เล็กลงเพื่อให้ทำสำเร็จได้ง่ายขึ้น จากนี้ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็มาขัดขวางความฝันเราไม่ได้ เพราะ…

ความฝันของเรา ใช้ซะ!!

ขอบคุณบทความดีๆจากwww.aommoney.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook