เปิดโพย16จว.มาแรง! เขตศก.พิเศษ-ค้าชายแดนดันที่ดินพุ่ง 2-3 เท่า

เปิดโพย16จว.มาแรง! เขตศก.พิเศษ-ค้าชายแดนดันที่ดินพุ่ง 2-3 เท่า

เปิดโพย16จว.มาแรง! เขตศก.พิเศษ-ค้าชายแดนดันที่ดินพุ่ง 2-3 เท่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผย 16 จังหวัดดาวรุ่งลงทุนอสังหาฯ ไปได้สวยช่วงเศรษฐกิจซบ แม่สอดมาแรง รับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ผู้ประกอบการแห่ลงทุน หลังเห็นสัญญาณค้าชายแดนมูลค่าสูงต่อเนื่อง ดันราคาที่ดินพุ่งกว่า 2-3 เท่า

นายธนวันต์ พสุคันธภัค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนรมิตนคร จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสการลงทุนใน อ.แม่สอด และจะยึดเป็นทำเลหลักในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงานและคลังสินค้า เพราะเป็นพื้นที่การค้าชายแดนไทยและพม่าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปี 2557 มีมูลค่าค้าขายกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท เฉพาะที่ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า หากนับการค้าขายทั้งหมดประเมินว่ามูลค่าจะสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท

"แม่สอดจะขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อีกมากจากนโยบายของรัฐที่วางแม่สอดเป็นต้นแบบการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมทั้งนโยบายอีสต์-เวสต์คอริดอร์สที่จะเชื่อมจากเวียดนาม ผ่านลาว ไทย พม่า ไปยังยุโรป เชื่อว่าอีก 5 ปี มูลค่าการค้าระหว่างไทย-พม่าจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 เท่าตัวจากปัจจุบัน นอกจากนี้ แม่สอดอยู่ระหว่างการจัดตั้งเป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งจะทำให้การบริหารงานมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น" นายธนวันต์กล่าว

และว่า การพัฒนาอสังหาฯที่เติบโตมากขึ้น เกิดจากการลงทุนของกลุ่มทุนจากกรุงเทพฯ อาทิ กลุ่มสหพัฒน์, เซ็นทรัล, ซีพี, เอ็มบีเค และอมตะ เป็นต้น รวมถึงการลงทุนของผู้ประกอบการท้องถิ่น นักลงทุนจากพม่าด้วย ราคาที่ดินแม่สอดปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ช่วงปี 2554 มาจากกลุ่มธุรกิจที่มีความใกล้ชิดการเมืองเข้ามาซื้อ ราคานอกเมืองขณะนั้นอยู่ที่ราว 4-5 ล้านบาทต่อไร่ ทำเลไข่แดงใจกลางเมือง อาทิ ถนนสายเอเชีย ถนนยอดข้าวอยู่ที่ 8-9 ล้านบาทต่อไร่ แต่ปัจจุบันขยับเป็น 20-30 ล้านบาทต่อไร่

นายปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่พบว่าราคาที่ดินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากการขยายตัวของเมืองและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ อีกทั้งที่ดินมีจำกัดทั่วประเทศเพียง 5 แสนตารางกิโลเมตร แต่คนในประเทศเพิ่มจำนวนขึ้นจึงมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ตลอด จึงมองว่าการซื้อที่ดินเพื่อลงทุนยังมีต้นทุนถูก เพราะปี 2559 จะใช้ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ ซึ่งจะมีการขยับขึ้นเฉลี่ย 15-30%

"จากการสำรวจของธนาคารพบว่า 16 จังหวัดดาวรุ่งที่น่าลงทุน ได้แก่ 5 จังหวัด กรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ จ.นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และ จ.สมุทรปราการ จากการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ 5 จังหวัด หัวเมืองใหญ่ คือ จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก ขอนแก่น และ จ.สระบุรี จากการลงทุนและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว และอีก 6 จังหวัดหน้าด่านชายแดน คือ จ.สงขลา เชียงราย ตาก มุกดาหาร หนองคาย และ จ.กาญจนบุรี จากผลการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นชัดเจนเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ" นายปิยศักดิ์กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook