ประกันแก้เกมขายเบี้ยรถ"ชั้น2-3พลัส" พยุงกำไร

เศรษฐกิจตกสะเก็ด-หนี้ครัวเรือนแผลงฤทธิ์ ลามธุรกิจประกันรถยนต์ บริษัทวินาศภัยพลิกกลยุทธ์ ส่งโปรดักต์ใหม่-ปัดฝุ่นประกันชั้น 2 พลัส-3 พลัส ป้อนกลุ่มลูกค้าแรงซื้อตก คาดทั้งปีเบี้ยรถไม่รวมเบี้ยชั้น 1 โตสูง 30-40%

แหล่งข่าวจากวงการประกันภัยเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผู้ซื้อประกันภัยรถหันมาซื้อเบี้ยประกันที่ราคาถูกลง ช่วงที่ผ่านมาจึงเห็นหลายบริษัทประกันภัยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันภัยรถประเภท 2 พลัส (ชั้น 2+) และประเภท 3 พลัส (ชั้น 3+) รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุง โดยชูจุดขายราคาเบี้ยประกันที่ย่อมเยากว่าประเภท 1 (ชั้น 1) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดได้

"ตอนนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคหดลงไปเยอะมาก เพราะเศรษฐกิจไม่ดี หนี้ครัวเรือนก็สูง และที่สำคัญประกันภัยชั้น 1 ก็แข่งขันกันรุนแรง เคลมได้แทบจะทุกอย่าง ทำให้อัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) สูงมาก โดยตอนนี้ค่าเฉลี่ยลอสเรโชของประกันชั้น 2+ และชั้น 3+ อยู่ที่ประมาณ 40% เศษ แม้เบี้ยประกันจะไม่สูงมาก แต่ถ้าเทียบกับประกันชั้น 1 ที่ลอสเรโชสูงถึง 60-70% ก็เป็นทางเลือกทั้งผู้บริโภคและบริษัทประกันก็มีกำไร" แหล่งข่าวกล่าว

นายชาญวิทย์ ผดุงวัฒนโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจ้าพระยาประกันภัย กล่าวว่า ตลาดประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แข่งขันตัดราคากันรุนแรงซึ่งบริษัทประกันภัยขนาดเล็กไม่สามารถเข้าไปแข่งขันด้านราคาได้มากนัก จึงต้องหันไปนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ แทน เช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ชั้น 3 รวมถึงชั้น 2+ และชั้น 3+ ด้วย

นอกจากนี้ อัตราความเสียหายของประกันภัยรถยนต์ประกันภัยชั้น 1 ก็อยู่ในระดับสูงถึง 60% ขณะที่ความเสียหายของประกันภัยชั้นอื่น ๆ อยู่ที่ระดับประมาณ 50% หรือต่ำกว่า รวมถึงหลายบริษัทก็เริ่มปรับเงื่อนไขแบบประกันให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น ประกันชั้น 3+ จะมีความคุ้มครองเพิ่มเติมกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี อาทิ การขับรถตกถนน เป็นต้น จากเดิมจะต้องมีคู่กรณีเท่านั้น บริษัทประเมินว่าประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่นนอกเหนือจากประกันภัยชั้น 1 จะเติบโตได้ถึง 30-40% ในปีนี้

นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) กล่าวว่า บริษัทจะยังคงเน้นการโตของประกันภัยชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งประกันภัยชั้น 2+ มีมูลค่าเบี้ยประกันไม่ถึง 300 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 0.05% ของพอร์ตประกันภัยรถยนต์รวมที่ 6,000 ล้านบาท ปีนี้น่าจะเติบโตได้อย่างต่ำ 15%

"ปีนี้เป็นปีที่ประกันวินาศภัยต้องเหนื่อย เพราะแรงซื้อลดลง ยิ่งตลาดรถยนต์ที่ไม่มียอดรถใหม่เพิ่มเยอะ เลยต้องดูแลลูกค้าเดิมให้ดี โดยปีที่ผ่านมาเรามียอดต่ออายุกรมธรรม์ประมาณ 70% ก็ต้องรักษาไว้ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นลูกค้าประกันภัยชั้น 1 ส่วนลูกค้าประกันภัยชั้น 2+ ก็ยืดอายุการใช้งานรถจากเดิม 10 ปี เป็นอายุ 15 ปี เพื่อขยายตลาดอีกทาง" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นางสาวนิตยา พิริยะธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สามัคคีประกันภัย กล่าวว่า กลยุทธ์ของประกันภัยชั้น 2+ และชั้น 3+ บริษัทร่วมกับพันธมิตรสร้างส่วนเสริมพิเศษเพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น ความร่วมมือกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพิ่มความคุ้มครองเรื่องค่าเดินทางระหว่างการซ่อมแซมรถยนต์ที่ทำประกันภัยให้ เป็นต้น

นายชาติชาย พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยศรีประกันภัย กล่าวว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ ปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่าระดับ 10-20% โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร คู่ค้า รวมถึงใช้เทคโนโลยี เพื่อปรับระบบงานบริการให้รวดเร็ว