"กาแฟเขาทะลุ" สินค้าชุมชนโกอินเตอร์
นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวสวนกาแฟเมืองชุมพร เพราะวันนี้กาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์แท้ที่มีแหล่งกำเนิดจากดินแดนบราซิลของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ "กาแฟเขาทะลุ" (Khao Thalu) ได้กลายมาเป็นทางเลือกให้กับคอกาแฟไทย-เทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่กว่าที่จะสามารถแจ้งเกิดกาแฟแบรนด์บ้าน ๆ ให้ติดตลาดและโกอินเตอร์ได้ ก็ต้องลงทุนลงแรงกันไม่น้อยทีเดียวในรอบทศวรรษที่ผ่านมาจนกลายเป็นกิจการกาแฟคั่วบดครบวงจร ทั้งปลูกเอง คั่วเอง เปิดร้านขายกาแฟ และบริการแฟรนไชส์
"สันติ ใจรักษ์" ประธานกลุ่มเกษตรกรทำสวนเขาทะลุ ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร บอกว่า กลุ่มเกษตรกรทำสวนเขาทะลุได้มีการรวมกลุ่มชาวสวนกาแฟ จำนวน 1,200 ครอบครัว มาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งสมาชิกบางคนมาจากจังหวัดระนองด้วย และทุกคนล้วนมีอาชีพทำสวนกาแฟพันธุ์โรบัสต้า โดยมีการปลูกกาแฟมากที่สุดในพื้นที่ตำบลเขาทะลุ ตำบลเขาค่าย และตำบลนาสัก ในเขตอำเภอสวี โดยมีสัดส่วนมากถึง 90% ของพื้นที่ปลูกกาแฟของจังหวัดชุมพร
หลังจากมีการรวมกลุ่มในรูปสหกรณ์แล้ว ก็ได้ผลิตกาแฟภายใต้แบรนด์ "กาแฟเขาทะลุ" กระทั่งได้รับรางวัลการันตีคุณภาพหลายประเภท ได้แก่ รางวัลหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP 5 ดาว รางวัลพัฒนากาแฟดีเด่นจากงานไทยแลนด์ อาเซียน ค็อฟฟี่ แอนด์ ที ปี 2008
นอกจากนั้นยังผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และเครื่องหมายฮาลาล จากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันกาแฟเขาทะลุ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือก 3 ชนิด คือ กาแฟปรุงสำเร็จ หรือ 3 in 1 กาแฟคั่วบด และกาแฟเกล็ด (InstantCoffee) โดยแบ่งเป็น 4 สูตร คือ สูตรรสกลมกล่อม สูตรรสเข้มข้น สูตรเพื่อสุขภาพ และสูตรดับเบิลชอท (เข้มข้น 2 เท่า) นอกจากจำหน่ายในประเทศแล้ว ยังมีการส่งออกไปยัง สปป.ลาว และเมียนมาร์ด้วย สโลแกนของกาแฟเขาทะลุ ก็คือ "จากต้นสู่ถ้วย รสชาติเข้มแท้ กาแฟเขาทะลุ"
การรวมกลุ่มของเกษตรกรชาวสวนกาแฟเช่นนี้ ทำให้สามารถรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรในราคานำตลาดได้เลยจากเมล็ดกาแฟสารที่ผ่านการกะเทาะเปลือก ซึ่งอยู่ที่ราคากิโลกรัมละประมาณ 80 บาท แต่เมื่อนำมาเข้าสู่กระบวนแปรรูปจนกลายเป็นเมล็ดกาแฟคั่ว ก็สามารถเพิ่มมูลค่าเป็นกิโลกรัมละ 320 บาท
ที่สำคัญยังทำให้ลูกหลานของชาวสวนกาแฟในพื้นที่ทุกคนมีงานทำ และมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ในชุมชนอีกด้วย
"การทำการตลาดของกาแฟเขาทะลุ เริ่มจากการบอกกันปากต่อปาก ก่อนจะขยับเข้าไปตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ พร้อมทั้งมีการขายแฟรนไชส์แก่ผู้ที่ต้องการนำกาแฟเขาทะลุ ไปเปิดบูทตามสถานที่ต่าง ๆ ส่วนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ กลุ่มเกษตรกรทำสวนเขาทะลุก็จะหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตและขยายตลาดให้มากขึ้น" นายสันติกล่าว
กาแฟเขาทะลุ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของชาวสวนกาแฟ ที่ไม่ใช่แค่ปลูกและขายเฉพาะวัตถุดิบ ซึ่งมักเจอปัญหาพ่อค้าคนกลางกดราคา แต่เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันแปรรูปพัฒนาผลิตภัณฑ์จนเป็นที่ต้องการของนักดื่มกาแฟ ทำให้สินค้าชุมชนแห่งนี้โกอินเตอร์ไปแล้ว