เปิดเคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้ปลอดภัย

ในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ทุกคนระมัดระวังการใช้จ่าย จะตัดสินใจซื้ออะไรซักอย่างต้องคิดให้รอบครอบว่าคุมค่าหรือไม่ สำหรับคนที่มีเงินพลาสติกหรือว่าบัตรเครดิตยิ่งต้องระมัดระวัง หากใช้จ่ายเพลินหนี้ก็พอกจนอาจเป็นปัญหาในอนาคตได้

แต่บางคนใช้จ่ายและบริหารเงินเป็นก็ช่วยได้เยอะ...การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหากมีวินัยก็ช่วยให้เราบริหารเงินสดได้ดีขึ้น แต่ในยุคสมัยที่ฝืดเคืองแบบนี้มิจฉาชีพก็มากขึ้นด้วย การใช้บัตรเครดิตก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ไม่ว่าจะรูดซื้อสินค้า หรือ บริการต่างๆต้องระวังให้ดี อาจถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิตไปจ่ายทำให้เจ้าของบัตรเสียหายได้

วันนี้เรามีเคล็ดลับการใช้จ่าย หรือ การใช้บัตรเครดิตอย่างปลอดภัยมานำเสนอ ลองนำไปปฏิบัติกันได้นะครับ

รักษาบัตรของท่านเสมือนเป็นเงินสดวิธีการใช้บัตรเครดิตอย่างปลอดภัย

oเซ็นชื่อหลังบัตรทันทีที่ได้รับบัตรมาใหม่

oไม่ควรเขียนหรือเก็บรหัสไว้รวมกับบัตร

oตรวจดูให้แน่ใจว่าได้รับบัตรคืนหลังการใช้ทุกครั้ง

oหากเป็นไปได้ ควรให้บัตรอยู่ในสายตาตลอดเวลาในขณะที่ร้านค้ากำลังดำเนินการขออนุมัติวงเงิน

oตรวจสอบ Sales Slip ทุกครั้งว่าจำนวนเงินถูกต้องหรือไม่ก่อนเซ็นชื่อ และเก็บสำเนา รวมทั้งใบบันทึกรายการ ATM ไว้ทุกครั้ง

ไม่ควรบอกรหัสบัตรของท่านกับใครทางโทรศัพท์

oควรตรวจสอบใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายของบัตรทุกครั้ง โดยเฉพาะหลังจากการเดินทาง โดยตรวจสอบจำนวนเงินในแต่ละรายการเทียบกับสำเนา Sales Slip ควรบันทึกหมายเลขบัตรแต่ละใบ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกรณีฉุกเฉิน เช่น บัตรหาย หรือ ถูกโจรกรรม และเก็บแยกไว้ต่างหาก

oหากรู้สึกว่าพนักงานขายทางโทรศัพท์คะยั้นคะยอขอหมายเลขบัตรเครดิตของท่าน ให้สงสัยไว้ก่อนและปฏิเสธไป

oไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของท่านกับใครขณะใช้บัตรเครดิต และแสดงบัตรประชาชนหรือเอกสารอื่นๆ เมื่อท่านเห็นสมควรว่าจำเป็นเท่านั้น

oไม่ควรเปิดเผยรหัสบัตรของท่านกับใคร ท่านควรเป็นผู้เดียวที่รู้

oในการตั้งรหัสบัตร พยายามเลือกรหัสที่ท่านสามารถจำได้ง่าย แต่ไม่ควรใช้ตัวเลขที่ผู้อื่นอาจเดาได้ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ วันเกิด ทะเบียนรถ เป็นต้น

oหากบัตรของท่านติดอยู่ในเครื่อง ATM ควรระวังผู้ที่แสดงความหวังดีเข้ามาช่วยเหลือ เพราะผู้ที่มาช่วยอาจแฝงด้วยเจตนาที่ไม่ดีและอาจใช้วิธีการต่างๆ เพื่อล่วงรู้รหัสบัตรของท่าน แล้วอาจนำบัตรของท่านที่ค้างอยู่ในตู้ ATM มากดถอนเงินในภายหลัง อย่าชะล่าใจ…ภัยทุจริตบัตรเครดิต

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากชมรมผู้ตรวจสอบภายในธราคารและสถาบันการเงิน