สรรพากรดึงตลาดสด-นัดเข้าระบบภาษี
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงแนวทางการปิดช่องโหว่ภาษีเพื่อเพิ่มรายได้อีก 10% ตามนโยบายของนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของกรมออกสำรวจตลาดสดหรือตลาดนัดต่างๆ เพื่อนำผู้ประกอบการที่มีรายได้และอยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษีเข้าระบบภาษีมากขึ้น
โดยพบว่ารายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ของไทยที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เคยประเมินไว้ พบว่าไทยมีช่องว่างของธุรกรรมทางการค้าทำให้แวตหายไปประมาณ 10-14% ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุ เช่น ร้านค้านั้นมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 1.8 ล้านบาท
ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการที่มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทขึ้นไป ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและยื่นเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น จึงต้องเร่งสำรวจการค้าตามตลาดค้าใหญ่ อาทิ คลองถม ตลาดไฟฉาย ตลาดรถไฟ โดยเฉพาะร้านค้าขนาดใหญ่ เพื่อดูว่ามีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
นายประสงค์กล่าวว่า กรมสรรพากรคาดการจัดเก็บรายได้ปีนี้อาจต่ำกว่าเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมว่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย 1.6-2 แสนล้านบาท โดยเป้าหมายการจัดเก็บภาษีทั้งปีอยู่ที่ 1.965 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บภาษี 7 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ (ตุลาคม 2557-เมษายน 2558) ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงที่คาดว่าจะทำให้รายได้หายไปประมาณ 1 แสนล้านบาท รวมถึงธุรกิจเหล็กในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งทุ่มตลาดจากสินค้าจีน คาดว่าจะทำให้หายไปหลายหมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามการเร่งรัดโครงการลงทุน ภาครัฐจะทำให้เงินทยอยไหลเข้าระบบเศรษฐกิจมากขึ้น บวกกับภาคการท่องเที่ยวขยายตัวสูง ส่งผลให้การบริโภคในประเทศสูงขึ้น ทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บจากการบริโภคภายในประเทศสูงขึ้นตาม ปีนี้น่าจะสูงกว่าปีที่แล้วราว 11% และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
"ผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบนำเข้าที่ปรับราคานำเข้าลดลง ส่งผลให้รายได้จากการเก็บแวตนำเข้าหายไป 4 หมื่นล้านบาท และทำให้แวตที่จัดเก็บจากราคาหน้าปั๊มหายไปอีก 6 หมื่นล้านบาท
และรวมถึงการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทที่อยู่ในธุรกิจน้ำมันได้รับผลกระทบจากการขาดทุน อาทิ ในเครือ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ปีที่แล้วบริษัทแจ้งผลประกอบการมีกำไรสุทธิราว 9 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าปีนี้ผลกำไรสุทธิน่าจะไม่เกิน 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ภาษีที่จัดเก็บได้ลดลง" นายประสงค์กล่าว