ออก กม.ล้างหนี้ประเทศ 9 แสนล้าน คลังชงเสนอให้เพิ่มเงินต้น-หลังจ่ายได้แต่ดอกเบี้ย

รมว.คลังลุยไฟเสนอออกกฎหมายล้างหนี้ประเทศ 9 แสนล้านบาท หลังพบมีหนี้กว่า 4 แสนล้านต้องชำระภายใน 8 ปี เชื่อไม่สามารถทำได้ จึงชงออกกฎหมายกำหนดการชำระเงินให้ชัด รวมทั้งเพิ่มเงินต้นมากขึ้นหลังจากที่ผ่านมาส่วนใหญ่จ่ายแต่ดอกเบี้ย

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า คลังจะออกกฎหมายพิเศษเพื่อล้างหนี้ของประเทศจำนวนกว่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการรวมเอาหนี้ทั้งจากโครงการรับจำนำข้าว หนี้ที่รัฐบาลติดกองทุนประกันสังคม และหนี้ที่รัฐบาลต้องชดเชยความเสียหายให้กับรัฐวิสาหกิจต่างๆ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นต้น

สาระสำคัญของการออกกฎหมาย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการชำระหนี้ซึ่งต้องมีระยะเวลานาน 20-30 ปี หากปล่อยไว้ก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เพราะในจำนวน 9 แสนล้านบาท มีหนี้ครึ่งหนึ่งต้องชำระภายใน 8 ปี หรือปีละ 5 หมื่นล้านบาท แต่รัฐบาลไม่มีงบเพียงพอ เพราะปัจจุบันการชำระหนี้ของประเทศเป็นเงินต้น 5-6 หมื่นล้านบาท และอีก 1.5 แสนล้านบาท เป็นการชำระดอกเบี้ยเงินกู้

หากรัฐบาลไม่ออกกฎหมายพิเศษบริหารหนี้ 9 แสนล้านบาท ก็ต้องยืดอายุหนี้ทั้งจำนวนออกไปเรื่อยๆ ทำให้เสียดอกเบี้ยทุกปีประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท โดยที่เงินต้นอยู่เท่าเดิม ทำให้เป็นภาระงบประมาณของประเทศมากขึ้น

"การออกกฎหมายพิเศษแก้หนี้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแต่สามารถทำได้ ตอนนี้คลังดูเรื่องจำนวนหนี้ให้ชัดเจนว่าแต่ละส่วนมีเท่าไร และจะทำให้เสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2558 เพราะรัฐบาลตั้งใจทำให้เสร็จภายในอายุรัฐบาลนี้"

แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดการออกกฎหมายล้างหนี้ 9 แสนล้านบาท ว่าจะมีการระดมทุนด้วยการออกเป็นพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรออมทรัพย์แต่ละประเภทจำนวนเท่าไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการออกกฎหมายพิเศษเพื่อล้างหนี้ดังกล่าว เนื่องจากในกฎหมายปัจจุบันไม่ได้กำหนดจำนวนเงินในการชำระหนี้ไว้ ทำให้รัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มาตั้งงบฯ เพื่อชำระหนี้น้อยเกินไป ส่วนใหญ่สามารถจ่ายได้เพียงดอกเบี้ย คลัง จึงมีแนวคิดออกกฎหมายเพื่อกำหนดจำนวนเงินชำระหนี้ให้มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้เคยเสนอให้จัดสรรงบประมาณปี 2559 ชำระต้นเงินกู้ไม่ต่ำกว่า 3% ของงบประมาณรายจ่าย แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันตั้งไว้ที่ 2.3%

ที่มา : นสพ.ข่าวสด