จากแชมป์จักรยาน สู่ธุรกิจนำเข้ารายใหญ่

จากแชมป์จักรยาน สู่ธุรกิจนำเข้ารายใหญ่

จากแชมป์จักรยาน สู่ธุรกิจนำเข้ารายใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณนพปฎล พิริยะกุล (คุณบาส) เจ้าของบริษัท พิริยะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าจักรยานรายใหญ่ ติดอับดับท็อปทรีของประเทศไทย



คุณบาสเล่าให้ฟังว่า ตอนอายุ 18 ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักปั่น จักรยานระดับโลก มุ่งมั่นจนได้เป็นแชมป์ประเทศไทย และบินไปฝึกฝนต่อถึงเบลเยี่ยม แต่ข้อจำกัดในด้าน สรีระของคนเอเชีย ทำให้ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้


แต่คุณบาสกลับพบสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า คนยุโรปขี่จักรยานเยอะมาก และเลือกใช้อุปกรณ์ คุณภาพสูง ซึ่งช่วงนั้นยังไม่แพร่หลายในไทย หรือที่มีขายก็ไม่เหมาะกับสรีระคนเอเชีย จึงเกิดความคิดที่จะนำเข้าอุปกรณ์จักรยานให้คนไทย ได้มีโอกาสเข้าถึงคุณภาพที่ทัดเทียมกับยุโรป คุณบาสพยายามเสาะหาอุปกรณ์ที่เหมาะกับคนเอเชีย และตัดสินใจกลับมาเปิด บริษัทที่ไทยตอนอายุ 22 ปี โดยกัดฟันรวบรวมเงินเก็บและขอจากครอบครัวบางส่วน


เริ่มต้นคุณบาสได้ไปเช่ามุมเล็กๆในร้านอาหารเดือนละ 3,000 บาท มีโต๊ะอยู่ตัวเดียวแต่ สถานที่ไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ จึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรกทำเป็นโฮมออฟฟิศ ก็ได้ไทยพาณิชย์ ให้สินเชื่อ นับเป็นความประทับใจแรกที่มีกับไทยพาณิชย์ ผมรู้สึกว่าเขาให้โอกาส ทำให้ จุดเล็กๆนี้เริ่มต้นขึ้น คุณบาสเล่าด้วยรอยยิ้ม "และผมก็มีสินค้าแบรนด์แรกคือหมวกจักรยาน ที่ผลิตเพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะอย่างที่ผมหามานาน"


คุณบาสเล่าต่อว่า ช่วงแรกผมแทบไม่มีเงินกินข้าว ได้ภรรยาขับรถส่งข้าวให้ทุกวันจาก ที่ทำงาน เงินทุกบาทลงกับธุรกิจ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ กว่าจะได้ผ้าม่าน หรือเฟอร์ฯ สักชิ้นต้องประหยัดสุดชีวิต บางวันนั่งทำงานมองโซฟา รู้สึกว่ามันมีค่ามากจำได้หมด ว่าชิ้นไหนได้มาจากงานไหน ทำให้ผมฮึดสู้ ทำงานตลอด 7 วัน ไม่มีวันหยุดแพ็คของ ส่งของ ทำบัญชี ขับรถทั่วประเทศ เสนอสินค้าด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้งบริษัทมีผมคนเดียวเป็นทุกตำแหน่ง



ผ่านไป 6 ปี ยอดขายดีขึ้น แต่ก็ยังต้องหมุนเงินเรื่อยๆ รู้สึกตึง แต่ก็ยังหาทางออกไม่พบเวลานั้นมีทีมงานไทยพาณิชย์ติดต่อมา เราก็แว้บขึ้นมาเลยว่านี่แหละทางออกแต่ก็ยังไม่คิดว่าธนาคารฯ จะสนใจ บริษัทเล็กๆแบบผมหลังจาก ได้คุยกัน ธนาคารฯ เสนอวงเงินให้ผม 10 ล้านบาทเพื่อต่อยอดธุรกิจ10 ล้านสำหรับผมมันเยอะมากเป็นไปได้หรือ! แต่ไทยพาณิชย์อนุมัติให้ผมเร็วมากเป็น Big Surprise ที่สร้างความประทับใจให้ผมจนถึงทุกวันนี้

“พอผมได้เงินมา ผมก็เหมือนมีอาวุธยุทโธปกรณ์ครบครัน ได้กระสุนเต็ม ปีนั้นผมโตจาก 40 กว่าล้านเป็น 65 ล้าน ผมรู้เลยว่า การเป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐแค่คุณ เข้าใจการใช้มัน คุณจะรู้ว่ามันคือที่สุดของการทำธุรกิจ”

คุณบาสยังเล่าต่อ อีกว่า “ผมรู้สึกเหมือนมีที่ปรึกษาทาง การเงิน มีทีมที่คอยดูภาพรวม ทีมงานเขาดูแลและ ให้คำแนะนำดีมาก เช่น บริการ Forward Contract ช่วยป้องกัน ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนหรือ SCB Business Net ซึ่งเป็นระบบธุรกรรมออนไลน์สำหรับ SME ทำให้ผมสบายมากขึ้น ครบวงจรมากขึ้นติดขัดอะไรสามวันก็ได้คำตอบ ไม่เคยทอดทิ้ง ผมประทับใจมาก”

เมื่อได้วงเงินก็เหมือนติดสปีด ได้ขยายจาก 10 แบรนด์เป็น 21 แบรนด์ภายใน สองปี ขยายโชว์รูมเพิ่มเป็นสองสาขา และเปิดบริษัทเพิ่มเป็นสามบริษัทมี สินค้าคงคลังเพิ่มมากขึ้น จากที่ต้องหมุนเงินเป็นลูกข่าง ก็มีเงินสั่งสินค้าล็อตใหม่ ได้ทันที ธุรกิจขยายใหญ่ขึ้น มีสภาพคล่องมากขึ้น “ไทยพาณิชย์เป็นพี่ใหญ่ใจดีที่เข้ามาเติมเต็ม เป็นที่ปรึกษาในเวลาที่ขาด ผมเคยโทรหาผู้จัดการ ดึกดื่นสามสี่ทุ่มไม่คิดว่าเขาจะรับสาย แต่เขาก็รับ ถ้าใครโทรหาเราในเวลานี้มีอยู่ 2 เรื่อง ปัญหากับปัญหาใช่ไหมครับ(หัวเราะ) แต่เขาพร้อมเขาเข้าใจเรา ตอบความต้องการของเราได้ดีที่สุด”


และทั้งหมดนี้ คือความประทับใจของลูกค้า SME ที่มีกับธนาคารไทยพาณิชย์ “SME กล้าคิด ไทยพาณิชย์ก็กล้าให้”

Advertorial

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook