ยำใหญ่"ภาษีมรดก" เกิน100ล้านจ่าย5% คาดโหวตผ่านฉลุย

ร่างกฎหมายภาษีมรดกโดน กมธ.ยำใหญ่ ปรับวงเงินที่ต้องจ่ายภาษีจากส่วนเกิน 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท แถมปรับลดอัตราจัดเก็บจาก 10% เหลือ 5% คาดวาระ 2-3 สนช.โหวตให้ผ่านฉลุย เศรษฐีรอดตัวเพียบ รัฐเก็บรายได้จิ๊บจ๊อย

แหล่งข่าวจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก พ.ศ. ... และร่างแก้ไขประมวลรัษฎากร (ฉบับที่...)พ.ศ. ... ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการรับให้ ที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเสนอต่อ สนช. จะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ โดยล่าสุดได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมาในหลายประเด็น เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ชุดที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้แก้ไข

ทั้งนี้ ในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก รายละเอียดสาระสำคัญที่มีการแก้ไข อาทิ

1) ขยับวงเงินมูลค่ามรดกที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท

2) มูลค่ามรดกที่ได้รับยกเว้น จะปรับตามดัชนี CPI (อัตราเงินเฟ้อ) ทุก ๆ 5 ปี

3) อัตราภาษีที่จัดเก็บปรับลดลงจากร่างเดิมที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งกำหนดจะจัดเก็บในอัตรา 10% ลดเหลือ 5% โดยกำหนดไว้ในกฎหมายเลย ไม่ใช่ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แล้วให้ รมว.คลังมีอำนาจกำหนดอัตราแต่อย่างใด

"การปรับทุก ๆ 5 ปี เป็นการปรับมูลค่าฐานภาษีมรดก เพื่อให้ทันสมัยตลอด ไม่ใช่ปรับอัตรา ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกรณีค่าลดหย่อนรายจ่ายส่วนบุคคลที่กำหนด 40% ไม่เกิน 6 หมื่นบาท ที่นานแล้วยังไม่สามารถแก้ไขได้ ส่วนอัตราเขียนไว้ใน พ.ร.บ.เลย ซึ่งจะแก้ยากหน่อย" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า 4) เปลี่ยนหลักพิสูจน์สิทธิ์ที่อยู่ โดยดูตามทรัพย์สินว่าต้องมีภูมิลำเนาในประเทศไทย ทั้งกรณีบุคคลเป็นผู้รับมรดก และกรณีนิติบุคคลที่จะดูว่าผู้มีอำนาจจัดการมรดกมีภูมิลำเนาที่ไหน และ 5) กำหนดประเภททรัพย์สินให้เก็บภาษีเฉพาะที่มีทะเบียน จะได้ไม่มีปัญหาในการจัดเก็บ จากร่างกฎหมายเดิมที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เขียนไว้ให้เก็บทรัพย์สินทุกประเภท

"กมธ.มีการกำหนดเรื่องภูมิลำเนา อย่างชัดเจนขึ้น จากเดิมเขียนไว้แค่ว่าต้องมีภูมิลำเนาในไทยเฉย ๆ ซึ่งอาจจะมีปัญหาในการปฏิบัติที่ต้องตีความกันวุ่นวาย" แหล่งข่าวกล่าว

มีแนวโน้มว่าร่างกฎหมายที่แก้ไขตามเสียงส่วนใหญ่ใน กมธ.วิสามัญ น่าจะผ่านความเห็นชอบของ สนช. ในวาระ 2 วาระ 3 ได้ง่ายขึ้น เพราะมีการปรับปรุงให้ผ่อนปรนมากขึ้นแล้ว และคงเก็บภาษีไม่ได้เม็ดเงินมาก แต่ออกกฎหมายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า มีการลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้จากคนรวยมาช่วยคนจน

ขณะที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า เสียงส่วนใหญ่ใน กมธ.เห็นชอบให้ปรับวงเงินจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ซึ่งตนเองที่เป็นประธาน กมธ.ได้ยืนยันตามร่างเดิมที่รัฐบาลเสนอ ดังนั้นจึงต้องไปอภิปรายกันใน สนช. วาระ 2 วาระ 3