วางแผนซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องยาก (ตอน 1)
หากลองสอบถามคนทั่วไปว่าในชีวิตหนึ่ง คุณอยากได้ หรืออยากมีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง? นิเชื่อเหลือเกินว่าในคำตอบทั้งหลายทั้งปวงของคนส่วนใหญ่ จะต้องมี "บ้าน" เป็นหนึ่งในคำตอบนั้นอย่างแน่นอนค่ะ
อาจด้วยเหตุที่ "บ้าน" เป็นทั้งความจำเป็น ความฝัน และความหวังของคนทั่วไป นั่นจึงทำให้ราคาบ้านมีแต่จะสูงขึ้นตามความต้องการและปัจจัยเงินเฟ้อ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่มีรายได้กับค่าใช้จ่ายไม่ค่อยสอดคล้องกัน การจะเก็บเงินซื้อบ้านในฝันให้ได้สักหลัง จึงเป็นเรื่องยาก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการกู้ยืมเงินและสร้างภาระหนี้สินในระยะยาวให้กับตัวเอง และเมื่อเราเริ่มผ่อนบ้าน นั่นก็เท่ากับว่า ความสามารถในการออมของเราก็ต้องลดลงไปด้วย
ดังนั้น การจะตัดสินใจซื้อบ้านในแต่ละครั้ง เราจึงควรศึกษาข้อมูล และวางแผนการเงินของตัวเองให้เหมาะสมเสียก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อบ้านจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง และความสามารถในการออมเงิน อันหมายถึงการทำลายความมั่นคงและมั่งคั่งในอนาคตของตัวคุณเอง ในบทความนี้นิก็เลยมีแนวทางในการวางแผนซื้อบ้านให้ตอบโจทย์มาฝากค่ะ
1. กำหนดรูปแบบบ้านที่ต้องการ
ก่อนที่คุณจะซื้อบ้าน สิ่งที่คุณต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ การกำหนดรูปแบบบ้านในฝันให้ชัดเจนค่ะ เริ่มจากตรวจสอบความต้องการของตัวเองว่า ต้องการบ้านแบบไหน บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือ คอนโด มีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ แล้ว Location หรือทำเล จะอยู่ที่ไหนดี ทั้งนี้การออกสำรวจตัวอย่างบ้านในฝัน ก็จะช่วยให้ภาพของความต้องการของเราชัดเจนขึ้นด้วยค่ะ เมื่อได้ภาพบ้านในฝันแล้ว ถัดมาก็มากำหนดเป้าหมายในรูปตัวเงินว่า บ้านในฝันของคุณมีราคาเท่าไหร่ เพื่อวางแผนในการซื้อหาและครอบครองต่อไป
2. วางแผนดาวน์ และจดจำนอง
เมื่อได้เป้าหมายในรูปตัวเงินแล้ว ก็ต้องมากำหนดวงเงินกันว่าจะดาวน์เท่าไหร่ จะกู้เงินธนาคารเท่าไหร่ (ส่วนใหญ่คงไม่รอเก็บเงินตัวเองซื้อ) ตรงนี้อยากเตือนผู้ที่ตั้งใจจะมีบ้านว่าอย่าคิดแต่อยากจะได้บ้าน จนกู้เงินโดยไม่ลืมหูลืมตานะคะ บางคนคิดเอาว่ากู้ไปก่อน ยิ่งถ้าไม่ต้องดาวน์เลยยิ่งดี ตรงนี้เป็นความคิดที่ผิด ทั้งนี้เพราะการกู้เงินซื้อบ้าน โดยไม่ใช้เงินตัวเองดาวน์เลยนั้น อาจทำให้ท่านมีภาระการผ่อนชำระคืนที่สูงเกินไป และอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในภายหลังได้
ดังนั้นคุณต้องคำนวณตัวเลขที่เหมาะสมว่าจะดาวน์เท่าไหร่ กู้เท่าไหร่ กู้นานแค่ไหน และอัตราดอกเบี้ยเป็นเท่าไหร่ ทั้งนี้ควรชั่งน้ำหนักให้ดี ระหว่างค่าใช้จ่ายโดยรวม กับเงินที่จะต้องผ่อนบ้านในแต่ละเดือนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และที่สำคัญต้องไม่กู้จนเกินกำลังจะผ่อนไหวนะคะ ซึ่งโดยปกติแล้ว เงินค่าผ่อนบ้านที่ดี ไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ค่ะ เช่น เงินเดือน 30,000 บาท ไม่ควรผ่อนบ้านเกิน 9,000 - 12,000 บาท เป็นต้น
ว้า หน้ากระดาษหมดเสียแล้ว มาตามต่อตอนหน้านะคะว่า นอกจากค่าผ่อนบ้านแล้ว ยังจะมีค่าใช้จ่ายอะไรตามมาอีกบ้าง ในการจะเป็นเจ้าของบ้านสักหลัง จะคำนวณดอกเบี้ยกันอย่างไร และจะวางแผนชำระเงินคืนธนาคารหรือเจ้าหนี้อย่างชาญฉลาดได้อย่างไรค่ะ
หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนซื้อบ้าน สามารถ email มาหานิได้ที่ nipapuntalk@hotmail.com และเช่นเคย สำหรับท่านใดที่นิเลือกเคสมาตอบผ่านทาง Sanook Money จะได้รับหนังสือ ‘เปลี่ยนชีวิตสู่ความมั่งคั่งด้วยการวางแผนการเงิน’ ไปเลยค่ะ แล้วพบกันค่ะ
ผู้เขียน โค้ชนิ นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® เจ้าของผลงาน pocket book ‘เปลี่ยนชีวิตสู่ความมั่งคั่งด้วยการวางแผนการเงิน’ ‘มีเงินล้านด้วยการวางแผนการเงิน’ และ ‘อยากรวยต้องรู้จักวางแผนการเงิน’