ยุคทองบังเกิด! จำนวนมหาเศรษฐีเอเชียแซงยุโรป จ่อโค่นสหรัฐปีหน้า ทรัพย์สินรวม 57 ล้านล้านดอลลาร์!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานผลการสำรวจของ"The Boston Consulting Group" หรือ "BCG" ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการทางการเงิน ที่เผยว่า ขณะนี้ เอเชียแปซิฟิคเป็นภูมิภาคที่มีคนรวยมากที่สุดเป็นอันดับสองและกำลังจะแซงหน้าอเมริกาเหนือ ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐ และแคนาดา จากจำนวน"เศรษฐีใหม่"ที่เพิ่มขึ้นล่าสด

รายงานระบุว่า ความมั่งคั่งทางทรัพย์สินส่วนบุคคลโดยรวมของเอเชียแปซิฟิกได้แซงหน้ายุโรปไปเรียบร้อยแล้วและกลายเป็นภูมิภาคที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองอีกทั้งยังคาดว่าในอีก1ปีข้างหน้าเอเชียแปซิฟิกจะมีความมั่งคั่งแซงอเมริกาเหนือที่ขณะนี้ครองอันดับ 1 อยู่ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกจากประวัติการสำรวจเป็นเวลา 15 ปีของBCG ที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีมูลค่าความมั่งคั่งทางทรัพย์สินส่วนบุคคลมากถึง 47 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 29 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2013 ซึ่งถือว่าห่างไม่มากนักเมื่อเทียบกับมูลค่าความมั่งคั่งของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ที่รวมแล้วอยู่ที่ 50.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

โดยความมั่งคั่งของเอเชียแปซิฟิกเป็นผลมาจากจำนวนเศรษฐีหน้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆโดยมีผู้ประกอบการราว17ล้านคนที่มีความมั่งคั่งมากกว่า1ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้ง จากการเฟื่องฟูของตลาดหุ้นช่วยให้ผู้ประกอบการร่ำรวยยิ่งขึ้นในปี 2014 ซึ่งในเอเชียแปซิฟิกยังได้รับอานิสงส์จากเศรษฐีหน้าใหม่จากจีนและอินเดียที่เป็นผู้ขับเคลื่อนความมั่งคั่งโดยรวมของเอเชียแปซิฟิกเช่นแจ๊คหม่าผู้ก่อตั้งอาลีบาบา เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของจีน และจิตเทนธรา เวรวานี เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ชาวอินเดีย

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ความมั่งคั่งสุทธิของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง หรือ "High Net Worth" จะมากถึง 57 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และผู้นำในการเติบโตของเอเชียจะยิ่งร่ำรวยขึ้นไปอีกมาก

ด้านแดเนียล เคสเลอร์ ผู้นำระดับโลกของฝ่ายบริหารความมั่งคั่งของบีซีจี กล่าวว่า พวกเราจะได้เห็นตลาดตราสารทุนที่มีผลกระทบอย่างมากต่อสินทรัพย์ที่มีอยู่ แต่เมื่อมองไปข้างหน้าในอนาคต เราประเมินว่าตลาดจะมีการเติบโตในระดับปานกลาง และ 2 ใน 3 ของการเติบโตในเอเชียแปซิฟิกจะมาจากนักลงทุน อีกทั้ง คาดว่าเอเชียแปซิฟิกจะมีความมั่งคั่งเพิ่มอีก 27.8 ล้านล้านเหรียญ ในอีก 5 ปี ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว 70 เปอร์เซ็นต์จะเป็นจีนและอีก 15 เปอร์เซ็นต์คืออินเดีย

นอกจากนี้ รายงานยังระบุอีกว่า รายงานของ BCG ประเมินว่า ความมั่งคั่งทางการเงินของภาคเอกชนในยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้น 6.6 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่เกือบ 40 ล้านล้านเหรียญ ในปี 2014 และในยุโรปตะวันออกจะเพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเท่ากับ 3 ล้านล้านเหรียญ

โดย 1 ใน 4 ของความมั่งคั่งของยุโรปตะวันตกมาจากความมั่งคั่งทางทรัพย์สินส่วนบุคคลของผู้ประกอบการที่มีมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 42% ทั่วโลกสำหรับในสหราชอาณาจักร จำนวนผู้ประกอบการที่มีความมั่งคั่งมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7% ในปี 2014 เป็นจำนวน 730,000 คน ซึ่ง 1,019 คน มีความมั่งคั่งมากกว่า 100 ล้านล้านเหรียญ ในขณะที่ความมั่งคั่งทางการเงินของประเทศเพิ่มขึ้น 11.5% เป็น 9.7 ล้านล้านเหรียญ

ทั้งนี้ จากการจัดอันดับกลุ่มอภิมหาเศรษฐีในปี 2013 สหรัฐอเมริกามีผู้ที่มีความมั่งคั่งมากกว่า 100 ล้านล้านเหรียญ เป็นจำนวน 5,201 คน นำหน้าจีนซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ที่มีจำนวน 1,037 คน และสหราชอาณาจักรและอินเดีย ที่อยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ นอกเหนือจากนี้แล้ว อันดับอื่นๆไม่มีการเปลี่ยนแปลง