วางแผนซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องยาก (ตอน 2)
ความเดิมตอนที่แล้ว หากเราจะซื้อบ้านสักหลัง สิ่งที่ต้องพิจารณาใน 2 เรื่องแรก คือ กำหนดรูปแบบบ้านที่ต้องการ และ การวางแผนเงินดาวน์และจดจำนองค่ะ ในตอนนี้เรากลับมาว่ากันต่อเรื่องวางแผนซื้อบ้านว่าต้องพิจารณาเรื่องอะไรอีกกันต่อดีกว่าค่ะ
3. ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่างๆ
นอกเหนือไปจากเรื่องของเงินดาวน์และเงินกู้แล้ว ผู้ที่จะซื้อบ้านยังต้องมองเลยไปถึงค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่างๆ อาทิ ค่าธรรมเนียมเงินกู้ ค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าอากร ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ทั้งหมดนี้สอบถามจากผู้ขาย หรือหาข้อมูลเบื้องต้นจากเว็บไซต์ธนาคารและกรมที่ดินได้) ค่าประกันอัคคีภัย รวมถึงค่าตบแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่จะทำให้บ้านของคุณเป็นบ้านในฝันอย่างแท้จริง ดังนั้นคุณอาจจะต้องมีการวางแผน เตรียมเงินก้อนไว้อีกก้อนหนึ่งเพื่อเตรียมไว้สำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นด้วยค่ะ
4. วางแผนชำระคืนอย่างชาญฉลาด
เมื่อได้บ้านมาครอบครองแล้ว หน้าที่ที่คนซื้อบ้านจะต้องทำก็คือ การวางแผนการชำระคืน คำถามมีอยู่ว่า ทำไมต้องวางแผนการชำระคืนด้วย ในเมื่อธนาคารเขาก็กำหนดค่างวดมาชัดเจนแล้วว่าต้องผ่อนชำระเดือนละเท่าไหร่ คำตอบก็คือ เพื่อให้เราสามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้เร็วกว่ากำหนด อันจะเป็นการประหยัดค่าดอกเบี้ยจ่ายยังไงละคะ วิธีการก็สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
4.1 ทำการชำระคืนเงินผ่อนชำระตามเงื่อนไขธนาคาร บวกด้วยเงินพิเศษ 10% ของค่างวด เช่น หากธนาคารกำหนดให้คุณผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท คุณอาจผ่อนเพิ่มอีก 1,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 11,000 บาท โดยให้แจ้งความประสงค์กับธนาคารให้ตัดเงินเดือนละ 11,000 บาท แทนที่จะเป็น 10,000 บาท ทุกเดือน ด้วยวิธีการนี้ จะทำให้คุณสามารถผ่อนชำระเงินกู้ซื้อบ้านหมดเร็วขึ้นได้ราว 7-8 ปี เลยทีเดียวค่ะ เพราะเงิน 1,000 บาทที่คุณผ่อนเพิ่มจะไปตัดเงินต้นโดยตรง ทำให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้นอีกนิด และช่วยให้ดอกเบี้ยจ่ายโดยรวมต่ำกว่าการผ่อนตลอดระยะเวลา 30 ปี เลยทีเดียวค่ะ
4.2 หากคุณไม่ถนัดแบบแรก ก็อาจใช้วิธีการผ่อนเพิ่มอีก 1 งวดในทุกปีก็ได้ เช่น พอถึงเดือนธันวาคมแทนที่จะจ่ายค่าผ่อนบ้านแค่ 10,000 บาท ก็ให้เพิ่มเป็น 20,000 บาท (ต้องแจ้งธนาคารอีกเช่นกัน) แบบนี้ก็สามารถลดเวลาการผ่อนชำระได้ใกล้เคียงกันกับแบบแรก โดยคุณอาจรอให้ถึงช่วงโบนัส หรือรับคอมมิชชั่นพิเศษ ค่อยนำเงินไปทบกับเงินงวดผ่อนชำระก็ได้ค่ะ
การที่เราจะต้องมีแผนการชำระเงินคืน ก็เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านที่คุณซื้อ ในท้ายที่สุดจะได้เป็นบ้านของคุณ หรือของคนในครอบครัวอย่างแท้จริง อีกประเด็นหนึ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือ การบริหารความเสี่ยงในระหว่างที่ยังมีภาระจดจำนอง ด้วยการทำประกันชีวิตครอบคลุมวงเงินกู้ของคุณไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน บ้านจะยังตกเป็นทรัพย์สินของคุณหรือของคนในครอบครัวอยู่นะคะ
หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนซื้อบ้าน สามารถ email มาหานิได้ที่ nipapuntalk@hotmail.com และเช่นเคย สำหรับท่านใดที่นิเลือกเคสมาตอบผ่านทาง Sanook Money จะได้รับหนังสือ ‘เปลี่ยนชีวิตสู่ความมั่งคั่งด้วยการวางแผนการเงิน’ ไปเลยค่ะ แล้วพบกันค่ะ
ผู้เขียน โค้ชนิ นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® เจ้าของผลงาน pocket book ‘เปลี่ยนชีวิตสู่ความมั่งคั่งด้วยการวางแผนการเงิน’ ‘มีเงินล้านด้วยการวางแผนการเงิน’ และ ‘อยากรวยต้องรู้จักวางแผนการเงิน’
ติดตามบทความที่เกี่ยวข้อง วางแผนซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องยาก (ตอน 1)
