ผู้ซื้อรายใหญ่ แห่ซื้ออาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย ยอมรับหวั่นของแพงขึ้น
(30 มิ.ย.58) บรรยากาศของการจำหน่ายอาหารทะเลวันนี้ ที่ตลาดทะเลไทย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดขายตั้งแต่เวลา 04.00 – 10.00 น. ของทุกวัน ก็ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าคนกลางซึ่งเป็นผู้ซื้ออาหารทะเลรายใหญ่ทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร และต่างจังหวัด มาซื้ออาหารทะเลเพื่อนำไปขายต่อกันเป็นจำนวนมาก
นายพงษ์ฤกษ์ เรืองชัยสิทธิ์ ผู้ซื้อรายใหญ่ที่มาซื้ออาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทยเป็นประจำทุกวัน ก็บอกว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่าชาวประมงจะหยุดจับปลาและจอดเรือนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไปนั้น ก็ส่งผลทำให้ผู้ซื้ออาหารทะเลรายใหญ่เกิดความหวั่นวิตกไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเรือประมงจอดผลกระทบที่จะตามมาอย่างเห็นได้ชัดเจนก็คือ อาหารทะเลต้องปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
โดย ณ วันนี้แม้ราคายังเป็นปกติ แต่คาดว่าอีก 1 – 2 วันข้างหน้า ราคาอาหารทะเลน่าจะเริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากวัตถุดิบลดน้อยลง ทำให้คนเกิดการแย่งกันซื้อ , แรงงานถูกเลิกจ้างเป็นห่วงโซ่ทั้งแรงงานในเรือประมง ประมงต่อเนื่อง แพปลา ห้องเย็นโรงน้ำแข็ง คานเรือ รวมถึงแรงงานของผู้ซื้อรายใหญ่ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
นอกจากนี้นายพงษ์ฤกษ์ กล่าวอีกว่า การหยุดออกทะเลยังทำให้เศรษฐกิจที่เกี่ยวกับประมงและประมงต่อเนื่องทรุดตัวตกต่ำลง ตลอดจนผู้บริโภคต้องซื้ออาหารทะเลที่มีราคาสูงขึ้น เป็นต้น โดยในขณะนี้ ผู้ซื้อรายใหญ่เองส่วนมากจากเดิมที่เคยซื้อแบบวันต่อวัน ก็เริ่มที่มีจะมีการซื้อในลักษณะของการกักตุนสินค้าบางประเภทบ้างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะซื้อไว้ได้มากนัก เพราะด้วยความเป็นอาหารทะเลต้องสดใหม่จึงจะมีคุณภาพที่ดีนั่นเอง
ทั้งนี้ ในฐานะผู้ซื้ออาหารทะเลรายใหญ่รายหนึ่ง ก็อยากจะวอนรัฐบาลให้หันหน้ามาพูดคุยกับชาวประมงและหาทางออกร่วมกัน ให้เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย โดยให้ชาวประมงยังคงสามารถที่จะเดินหน้าทำมาหากินได้ และรัฐบาลเองก็สามารถแก้ปัญหาของต่างประเทศได้ด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ควรปล่อยไว้นาน หากแก้ได้เร็วเท่าไหร่ก็ ยิ่งดีที่สุด เพื่อทำให้สถานการณ์ของการทำประมงกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับในหลายๆ ภาคส่วนจนกลายเป็นห่วงโซ่นั้นก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีได้ด้วยเช่นเดียวกัน