กฎ 6 ข้อ...เมื่อเจอ "วิกฤต"
คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์
สถานการณ์แบบนี้ ผมพยายามหาเรื่องดี ๆ มาเล่าให้ฟัง
แหะ แหะ แต่หาไม่ได้เลยครับ
คุยกับใครก็มีแต่ "ข่าวร้าย"
หลายคนบอกว่า สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ถึงขั้น "วิกฤต"
พอได้ยินคำว่า "วิกฤต" ผมก็นึกถึงคำพูดของคุณบรรยง พงษ์พานิช
เขาบอกว่า เวลาที่เจอ "วิกฤต" ต้องยึดกฎ 6 ข้อ
1.ต้องมีสติ
เพราะสติจะทำให้เราเกิดปัญญา คิดหาทางแก้ปัญหาได้
2.ต้องรู้ว่า "วิกฤต" คืออะไร
ปัญหาที่เผชิญอยู่นั้น ถ้าเราตีโจทย์เรื่องวิกฤตผิดพลาด
เราจะแก้ผิดทันที
อะไรที่จะนำพาเราไปสู่หายนะ ต้องหาให้เจอ
ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาผิดทาง
3.เก็บข้อมูลให้มากที่สุด
เพราะยิ่งมีข้อมูลเยอะเราจะเห็นทั้งปัญหาและทางแก้ปัญหา
4.วิเคราะห์ข้อมูล
เราจะแก้วิกฤตได้แค่ "ข้อมูล" คงไม่พอเพียง
จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลให้ถูกต้องด้วย
5.ทางเลือก
พอรู้ว่าต้นตอปัญหาคืออะไร ก็ต้องคิดหาทางออก
สร้าง "ทางเลือก" เพื่อการตัดสินใจ
และสุดท้าย ข้อ 6.ตัดสินใจ
ครับ หน้าที่สำคัญของ "ผู้นำ" ที่ดีนั้นคือ การตัดสินใจ
แฮ่ม ไม่ใช่ "บ่น"
เพราะบ่นไปเรื่อย ๆ ปัญหาก็ยังอยู่ที่เดิม
ต้องตัดสินใจและติดตามว่าสิ่งที่ตัดสินใจไปนั้นได้ผลหรือไม่
ยิ่งวิกฤตเรื่องนี้ยิ่งสำคัญ
คุณบรรยงบอกว่าผู้นำที่ดีต้องตัดสินใจให้ถูก
คือเลือกแนวทางที่ถูกต้องและถูกเวลา
ในยามวิกฤตนั้น"เวลา" สำคัญมาก
ยิ่งวิกฤต ยิ่งต้องคม
ต้องตัดสินใจให้ "คม"
ผมชอบคำนี้ของ "บรรยง"
เพราะการแก้วิกฤตนั้นต้องกระทบกับคนและอื่น ๆ อีกมากมาย
มีดที่ "คม" จะทำให้คนบาดเจ็บน้อย
ครับ นั่นคือกฎ 6 ข้อของการแก้วิกฤต
แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เราจะบอกว่า อะไรคือสถานการณ์วิกฤต
และอะไรคือ ปัญหา
ปัญหาใหญ่อาจไม่ใช่วิกฤตก็ได้ครับ
คุณบรรยงสรุปสั้น ๆ ว่า "วิกฤต" นั้นมีองค์ประกอบอยู่ 3 ข้อ
ข้อแรก เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันมาก่อน
ข้อที่สอง ไม่พึงประสงค์
และข้อสุดท้าย นำไปสู่หายนะ
ถ้ายังไม่ถึงขั้นนี้ ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต
ผมเอาเรื่องนี้มาไว้ตอนจบ เพื่อเป็นการปลอบใจหลาย ๆ คน
เพราะส่วนใหญ่คิดว่าปัญหาที่เผชิญอยู่นี้เป็น "วิกฤต"
แต่พอเอาองค์ประกอบ 3 ข้อของคุณบรรยงมาวิเคราะห์
อาจพบว่าปัญหาของเราอาจแค่ "ปัญหาใหญ่"
ไม่ใช่ "วิกฤต"
เอ๊ะ หรือว่าเป็น "วิกฤต" แล้วครับ