คลังเดินหน้า"ภาษีที่ดิน เล็งจัดเก็บ"อัตราก้าวหน้า" ถกนัดสุดท้ายปลายก.ค.นี้

คลังเดินหน้า"ภาษีที่ดิน เล็งจัดเก็บ"อัตราก้าวหน้า" ถกนัดสุดท้ายปลายก.ค.นี้

คลังเดินหน้า"ภาษีที่ดิน เล็งจัดเก็บ"อัตราก้าวหน้า" ถกนัดสุดท้ายปลายก.ค.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คลังเตรียมชงพ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าคณะกรรมการปฏิรูปภาษีหารือครั้งสุดท้ายปลายก.ค.นี้ ก่อนเสนอครม. ชี้เก็บภาษีแบบอัตราก้าวหน้าเหมือนกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มุ่งเก็บภาษีคนรวยไม่ให้กระทบคนจน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปโครงสร้างภาษีที่มีนายสม หมาย ภาษี รัฐมนตรีว่ากรกระทรวงการคลังเป็นประธานในช่วงสัปดาห์ที่3 ของเดือนกรกฎาคมนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)จะสรุปวิธีการและอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา โดยในเบื้องต้นรูปแบบการจัดเก็บเป็นแบบขั้นบันไดหรืออัตราก้าวหน้าในลักษณะเดียวกับการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งผู้ที่มีที่ดินเล็กน้อยและไม่แพงจะเสียภาษีไม่มาก แต่ถ้าเป็นคนที่มีที่ดินมากและเป็นที่ดินราคาแพงจะเสียภาษีที่สูงขึ้นซึ่งจะแตกต่างจากร่างกฎหมายเดิมที่เคยกำหนดไว้ว่าเสียในอัตราเดียวทั้งหมด

“สศค.มั่นใจว่าวิธีการจัดเก็บภาษีแบบขั้นบันได จะสามารถตอบข้อครหาต่างๆของร่างกฎหมายเดิมได้อย่างแน่นอน เช่นความเหลื่อมล้ำในเรื่องของราคาที่ดินระหว่างในเมืองและชนบทที่กำหนดอัตราภาษีเดียวเท่ากันหมดแต่วิธีการใหม่คือราคาที่ดินต่ำๆ ก็เสียภาษีเพียงเล็กน้อยส่วนราคาที่ดินในเมืองที่แพงก็จะมีเสียภาษีแพงขึ้น โดย สศค.จะเสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปโครงสร้างภาษีเป็นเคาะอัตราภาษีขั้นต่ำสุดและสูงสุดและยังรวมถึงราคาที่ดินขั้นต่ำสุดที่จะเริ่มต้นในการเสียภาษีด้วย”แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้สศค.ยังพิจารณาถึงผู้ครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมมาตั้งแต่ปูย่า ตายายหากผู้ครอบครองได้สิทธิมาเป็นระยะเวลามากกว่า 15-20 ปีจะได้รับการพิจารณาบรรเทาภาษีด้วยการเสียภาษีในอัตราที่ต่ำเว้นแต่มีการขายเปลี่ยนมือผู้ครอบครองใหม่จะต้องเสียภาษีในอัตราใหม่ ส่วนกรณีที่ดินเพื่อสาธารณะประโยชน์หรือที่ดินส่วนกลางของหมู่บ้าน จะไม่มีภาระภาษี

ทั้งนี้สศค.ยังคงเสนอให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3ประเภทคือ 1.ที่ดินเพื่อการเกษตร 2.ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและ3.ที่ดินอื่นๆซึ่งนับรวมถึงที่เดินเพื่อการพาณิชย์และที่ดินรกร้างว่างเปล่าเหมือเดิมแต่สำหรับอัตราภาษีนั้น สศค.เห็นว่า ควรลดระดับลง เช่นกรณีที่ที่ดินว่างเปล่าและไม่ได้ทำประโยชน์ที่ต้องเสียภาษีสูงสุดในอัตรา 0.5%แต่จะจัดเก็บจริงในอัตรา 0.05% ของราคาประเมินที่ดินและหากยังไม่ใช้ประโยชน์ให้เพิ่มภาษีอีก 1 เท่าทุกๆ 3 ปีแต่จำนวนภาษีที่เสียต้องไม่เกิน 2% ของราคาประเมินที่ดิน เห็นว่าเป็นอัตราที่แพงเกินไปก็จะเสนอให้ รมว.คลังพิจารณาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องการเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลด้วยเสนอให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลปีละ 200,000ล้านบาทภายในประเทศ 2-3 ปี นับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ แต่ในท้ายที่สุดต้องยกเลิกเพราะมีการกระแสต่อต้านอย่างหนักทั้งจากประชาชนและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามสำหรับข้อเสนอใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สศค.ได้มีการเน้นย้ำว่ารายได้ของรัฐบาลควรจะเพิ่มขึ้นแบบเล็กน้อยระยะเริ่มแรกปีละไม่เกิน 10,000ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook