พริกกะเหรี่ยง แฟรนไชส์ใจดี ใครไม่มีทุนก็เปิดร้านได้ โดยศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979

พริกกะเหรี่ยง แฟรนไชส์ใจดี ใครไม่มีทุนก็เปิดร้านได้ โดยศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979

พริกกะเหรี่ยง แฟรนไชส์ใจดี ใครไม่มีทุนก็เปิดร้านได้ โดยศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อยากมีธุรกิจส่วนตัวต้องทำอย่างไร? ธุรกิจอะไรน่าลงทุน? เป็นประโยคที่ผู้ต้องการมีรายได้ (มากกว่าเดิม) ถามกันเข้ามามากที่สุด!! บางคนเจอคำตอบและต่อยอดความคิด เปลี่ยนสถานภาพตัวเองจากมนุษย์เงินเดือนกลายเป็นเจ้าของกิจการที่ทุ่มเทเวลา แรงกาย แรงใจให้กับ “ธุรกิจส่วนตัว” แต่คนอีกจำนวนมากกำลังพยายามและยังไม่เจอหนทางนั้น

ในบรรดาประเภทสินค้าและบริการที่มีอยู่ในตลาด “ธุรกิจการขายอาหาร” ยังคงเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทำง่าย ขายคล่อง เห็นเงินสะพัดทุกวัน หลายคนมองว่าการทำธุรกิจอาหารเป็นเรื่องง่าย แค่ทำอาหารเป็นและอร่อยก็พอ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2558 นี้ กลุ่มธุรกิจร้านอาหารทั่วไปจะมีมูลค่าตลาดราว 67,000-275,000 ล้านบาท และ “ความคุ้มค่า” จะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าให้น้ำหนักในการตัดสินใจเลือกใช้บริการร้านอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการมีทางเลือกในการนำเสนอความคุ้มค่าในรูปแบบต่างๆ เช่น รสชาติอาหาร ความแตกต่างและความหลากหลายของอาหาร การตกแต่งร้าน การให้บริการ เป็นต้น

แฟรนไชส์ ทางลัดความสำเร็จ

ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา “แฟรนไชส์” ก็ยังคงเป็นรูปแบบธุรกิจที่คนต้องเปลี่ยนอาชีพหรือหารายได้เสริมนึกถึงเสมอ ขณะเดียวกันตลาดแฟรนไชส์ก็จะมีธุรกิจเกิดใหม่ให้ผู้สนใจได้เลือกอยู่ตลอดเวลา จากการสำรวจของ “สมาคมแฟรนไชส์ไทย” พบว่าในประเทศไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี ในตลาดมีธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ 400-600 ราย คิดเป็นจำนวนร้านแฟรนไชส์มากกว่า 90,000 แห่งในจำนวนนี้เป็นสาขาของผู้ประกอบการแฟรนไชซี ประมาณ 13,000-15,000 แห่ง หรือเท่ากับเปิดเพิ่มขึ้น 35-40 แห่งต่อวันทีเดียว

ในจำนวนร้านแฟรนไชส์ทั้งหมด กลุ่มธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กๆ จะมีมากที่สุด เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็น ร้านลูกชิ้นทอด ลูกชิ้นปิ้ง ที่มีอยู่มากกว่า 100 ราย ซึ่งที่จริงแล้วจะเรียกว่า เป็นแฟรนไชส์ที่เต็มร้อยก็ไม่ถูกต้องนัก แต่จะออกกึ่งๆ การขายวัตถุดิบมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มเหล่านี้ก็มีศักยภาพที่พัฒนาระบบให้ดีขึ้น และขยายตัวออกไปอย่างมั่นคงเช่นกัน

แฟรนไชส์ร้านอาหารขนาดเล็กที่กล่าวไปนั้น ยังไม่ได้รวมเครื่องดื่มกาแฟ ชานมไข่มุก เครื่องดื่มอื่นๆ ไอศกรีม และขนม-เบเกอรี่ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว จะทำให้กลุ่มแฟรนไชส์อาหาร-เครื่องดื่มนี้ มีมากกว่าครึ่งเลยทีเดียว

ร้านอาหารระดับกลาง ยังไปได้สวย

สมาคมแฟรนไชส์ไทย ระบุว่าร้านอาหารแบบมีที่นั่งรับประทานประมาณ 1 คูหาขึ้นไป ที่การลงทุนอยู่ในระดับหลักแสน และไม่เกินหลัก 3 ล้านบาท เช่น ร้านอาหารไทยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด ร้านข้าวแกงแสนอร่อย ร้านราดหน้ามือหนึ่ง ร้านส้มตำ ยำแซ่บ ร้านอาหารจีน บะหมี่-เกี๊ยว ข้าวมันไก่ เป็นต้น ล้วนมีโอกาสพัฒนาได้ทั้งสิ้น

เพราะมีจุดเด่นด้านความอร่อยลงตัว มีแฟนพันธุ์แท้หนาแน่นอยู่แล้ว เพียงแต่ปรับปรุงบางอย่างเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยมีการยกระดับขึ้นมาในเรื่องของการตกแต่ง เข้มงวดในด้านความสะอาด และระบบการบริการขั้นเทพที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจสูงขึ้น ตัวอย่างร้านแฟรนไชส์ระดับกลาง เช่น ร้านเจียงก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ร้านตำมั่ว เป็นต้น

“พริกกะเหรี่ยง” แฟรนไชส์ขายคุณภาพ

แม้ไม่มีเงินทุนก็เป็นเถ้าแก่ได้ หากมีความตั้งใจจริง นี่คือแนวคิดเอาใจคนหาเช้ากินค่ำของ “ชนะ รัตนภักดี” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที เอส ซี อาร์ กรุ๊ป 2011 จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยง” แบรนด์ก๋วยเตี๋ยวที่เปิดขายมานานกว่า 30 ปี จากร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ที่เปิดขายแบบลองตลาด

ด้วยสูตรลับความอร่อยแบบ “รสเด็ด เผ็ด อร่อย” หอมกลิ่นพริกของก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยง และสูตรน้ำส้มพริกกะเหรี่ยงที่สร้างความแตกต่างให้รสชาติของก๋วยเตี๋ยวและน้ำซุป “ลูกชิ้นอีแป๊ะ” ที่มีรสชาติกึ่งผสมคล้ายกับหมูเด้งผสมหมูยอ เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ทำให้เกิดกระแสการตลาดแบบ “ปากต่อปาก” ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนพัฒนามาเป็นธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์

“ธุรกิจแฟรนไชส์ของเราเติบโตมาจากความชื่นชอบในรสชาติของลูกค้าขาประจำคนแรกๆ ที่วันหนึ่งก็มีลูกค้าเดินเข้ามาถามสูตรก๋วยเตี๋ยว เขาอยากได้ไปเปิดร้านขาย และอยากให้ผมช่วยออกแบบเคาน์เตอร์ ทำป้ายร้าน แล้วเขาก็ขอใช้ชื่อร้านว่า ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยง”

ปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยงมีแฟรนไชส์นับร้อยสาขา มีทั้งแบบรถเข็นและแบบเคาน์เตอร์สำหรับขายในอาคารพาณิชย์ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการบริหารงานด้านแฟรนไชส์ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพจากเนื้อหมู 100% โดยเน้นคุณภาพความสดใหม่ รสชาติที่เป็นหนึ่ง หลากหลายรูปแบบผลิตภัณฑ์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน อาทิ GMP รวมทั้งยังมีระบบจัดส่งสินค้าด้วยรถระบบห้องเย็นบริการให้กับร้านสาขาทั่วประเทศ

ไม่มีทุน ก็เป็นเถ้าแก่ได้

ชนะเล่าว่า คนที่เข้ามาลงทุนกับเขามีหลายกลุ่ม ตั้งแต่นักธุรกิจระดับผู้บริหาร มีฐานะทางการเงินดี ซึ่งจะเข้ามาลงทุนในลักษณะเปิดร้านแล้วจ้างคนมาขาย อีกกลุ่มเป็นพนักงานบริษัทที่ต้องการขายก๋วยเตี๋ยวเป็นอาชีพเสริม และกลุ่มสุดท้ายจะเป็นคนระดับล่าง ซึ่งมีคนจำนวนมากที่อยากจะมีธุรกิจ แต่ยังขาดซึ่งเงินทุนในการเปิดร้าน

เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงาน หรือผู้ที่อยากมีรายได้เสริมได้มีอาชีพอิสระในธุรกิจแฟรนไชส์ กระจายรายได้พัฒนาสู่สังคมไทย ยกระดับมาตรฐานการครองชีพให้ดีขึ้น ชนะได้ทำบันทึกข้อตกลงกับบริษัท บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ปล่อยสินเชื่อให้กับเขารวมกว่า 3 พันล้านบาท

และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเป็นแฟรนไชซีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยง โดยบริษัทเปิดให้กู้เป็นจำนวน 60,000 บาท เท่ากับมูลค่าของแฟรนไชส์ ทั้งนี้ได้ออกแคมเปญพิเศษสำหรับ 100 คนแรกที่ติดต่อเข้ามาเป็นแฟรนไชส์ บริษัทยินดีให้เงินทุนหมุนเวียนอีกจำนวนรายละ 10,000 บาท แถมฟรีวัตถุดิบในวันเปิดร้าน 2,500 บาท และอุปกรณ์สำหรับจำหน่ายลูกชิ้นปิ้ง 1 ชุด

“เราไม่ได้ใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมืองหรือเมืองล้อมป่า แต่เราใช้วิธีขยายสาขาไปพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งตั้งเป้าขยายให้ได้ 1,000 สาขาในปีนี้ และในอนาคตเราจะกระจายศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อรองรับแฟรนไชส์ที่มีมากขึ้น พร้อมกับเมนูใหม่ๆ ป้อนให้กับแฟรนไชส์” ชนะเล่าถึงเป้าหมายธุรกิจ

“ขายดี” กำไรเดือนเป็นแสน

ด้านตัวเลขกำไรต่อชามนั้น ให้สูตรคำนวณง่ายๆ ว่า หากตั้งราคาขายชามละ 30 บาท ต้นทุนต่อชามจะอยู่ที่ 15 บาท เท่ากับกำไรชามละ 15 บาทคิดเป็นอัตรากำไรประมาณ 50% ของต้นทุน โดยเฉลี่ยในแต่ละสาขาจะขายได้อย่างต่ำ 100 ชามต่อวัน เท่ากับว่าจะมีกำไรอยู่ที่วันละ 1,500 บาท สาขาไหนที่ขายดีมากๆ อาจมีกำไรสูงถึงวันละ 5,000 บาท หรือ 150,000 บาทต่อเดือน

บริษัทการันตีว่าแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยงจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนกับธุรกิจในไซส์ที่เล็กลง ชนะยังได้เปิดให้ลงทุนในแฟรนไชส์ลูกชิ้นหมูปิ้ง งบการลงทุน 20,000 บาท ลงทุนครั้งเดียวมีอุปกรณ์ให้ครบ สูตรก็พร้อม สามารถเปิดร้านได้ทันที

การเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูพริกกะเหรี่ยง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อย และยังสามารถย่นระยะเวลาให้คุณประสบความสำเร็จกับการเป็นเถ้าแก่ได้เร็วขึ้นด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook