5 เคล็ดลับปรับตัว รัดกระเป๋า เมื่อเข้าวิกฤต
เศรษฐกิจก็มีขึ้น-ลง ชึ้น-ลง สลับกันไปแบบนี้ตลอดเวลา ในช่วงภาวะเศรษฐกิจดีเงินที่มีก็ใช้ง่ายจ่ายคล่องมือปรื๊ดๆ แต่ถ้าช่วงขาลงก็อาจจะสร้างความลำบากให้กับใครหลายๆ คนที่จะต้องประหยัดมากขึ้น ลดค่าใช้จ่าย ทั้งคนทำงานมีรายได้คงที่จากงานประจำ ไปจนถึงคนเป็นฟรีแลนซ์รับงานอิสระมีรายได้ไม่เท่ากันในแต่ละเดือน มันคงไม่ค่อยดีที่ชีวิตมีความสุขเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจดี แต่เราควรวางแผนทำให้ชีวิตดี๊ดีตลอดเวลา ทั้งในช่วงมีเงินมากและมีเงินน้อยนะจ๊ะ
คนที่เคยมีชีวิตลำบากแล้วค่อยๆ สร้างฐานะจนสุขสบายนั้นจะมียารักษาใจตัวเองในช่วงวิกฤต แต่สำหรับบางคนที่เคยกินดีอยู่ดีมาตลอด ก็อาจจะรับไม่ได้ถ้าชีวิตพลิกมาจนอย่างกะทันหันหรือมีหนี้สินล้นพ้นตัวแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งในช่วงสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ก็อาจจะทำให้เราหมดกำลังใจที่จะก้าวผ่านมันไปได้
แต่ว่า…ถ้าเราคิดว่า “เราต้องรอด” แล้วจะต้องทำให้ตนเองและครอบครัวผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายแบบนี้ไปให้ได้ ความคิดของเราก็จะเริ่มหาคำตอบที่จะมาสนับสนุนว่า “เราต้องรอด” ได้อย่างแน่นอน โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้ผ่านช่วงยากลำบากนี้ได้ โดยการบริหารค่าใช้จ่ายของชีวิตให้ลดลง ซึ่งในช่วงแรกๆ เราอาจจะรู้สึกฝืนใจ แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ เมื่อชิน สุดท้ายก็จะกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ของเรา
5 วิธีปรับตัวให้อยู่รอดในช่วงเศรษฐกิจคับขัน
1.ลดกาแฟแค่วันละแก้ว มีเงินเก็บมากขึ้น
กาแฟเป็นหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักของคนทำงาน บางคนเลิกกินกาแฟยากกว่าเลิกกินข้าวเสียอีก ดังนั้นถ้าจะให้เลิกทันทีก็ไม่ได้ร่างกายอาจจะอ่อนเพลีย ง่วงเหงาหาวนอน หมดเรี่ยวแรงในการทำงาน เมื่อเราเลิกไม่ได้ก็ต้องปรับตัว โดย “ดื่มกาแฟตามรายได้” ง่ายๆ คือ หากรายได้น้อยก็ชงกาแฟฟรีที่ทำงานหรือเลือกซื้อกาแฟในราคาย่อมเยาแทน และเมื่อรายได้มากขึ้น ตอนนั้นจะดื่มกาแฟแพงแค่ไหนก็คงไม่ระคายกระเป๋าเท่าไรแล้ว
ลองเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่า ถ้านายเอและนางสาวบี มีเงินเดือนคนละ 100 บาท นายเออยากประหยัดเงินเลยกินกาแฟแก้วละ 10 บาท นายเอจะเหลือเงินเก็บ 90 บาท ขณะที่นางสาวบี ติดใจกาแฟแก้วละ 60 บาท ขาดไม่ได้จริงๆ นางสาวบีก็จะเหลือเงินเก็บไว้สำหรับใช้จ่ายต่อเดือนแค่ 40 บาท ปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายโดยเลือกปรับจาก “สิ่งที่เราทำได้” ก่อน เมื่อทำได้จริงๆ แล้ว เราจะมีกำลังใจปรับเรื่องที่ยากในชีวิตเราอีกเยอะเลย
2.ลดค่าใช้จ่ายในค่าเดินทาง
เพราะ “ความจำเป็น” ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนทำอาชีพเป็นเซลส์ขายของต้องขับรถไปหาลูกค้าเพื่อขายงาน หรือสินค้า การขับรถก็เป็นสิ่งจำเป็นเพราะถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำมาหากิน วิธีการปรับอาจจะปรับจากถ้าแต่เดิมขับรถโดยใช้น้ำมัน ก็เปลี่ยนมาใช้รถแก๊ส หรือศึกษาเส้นทางในการเดินทางมากขึ้นเพื่อประหยัดเวลาและค่าเชื้อเพลิงของรถ แต่ถ้าเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ นั่งๆ ลุกๆ อยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์ แล้วที่พักก็อยู่ใกล้ ลองเปลี่ยนมาโดยสารรถสาธารณะดู ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
3.ช้อปปิ้งอย่างมีสติ
สำหรับสาวๆ ที่หลงรักการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ อาทิตย์ไหนไม่ได้ไปเดินตากแอร์กรีดกรายจะอึดอัดและเหมือนไม่ได้รีแลกซ์ วันนี้มีเคล็ดลับการ “ช้อปปิ้งอย่างมีสติ” มาฝากกัน
การเดินเที่ยวช้อปปิ้งละลายทรัพย์ทุกวัน อาจจะส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้ บางคนไม่มีเงินเก็บ ใช้เดือนชนเดือน บางคนเป็นหนี้สินเพราะรูดซื้อเสื้อผ้าไปเยอะ
– ลดการช้อปปิ้งลง โดยปรับจากไลฟ์สไตล์ที่เราเป็น ถ้าช้อปปิ้งทุกวันหลังเลิกงาน ก็ตั้งเป้าหมายใหม่ ว่าเป็นทุกวันเสาร์ ในงบประมาณ XXX เท่านั้น! ถ้าช้อปปิ้งเพื่อความเครียด อาจต้องหากิจกรรมที่ทำแล้วคลายความเครียด เช่น ไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน หรือไปดูหนังเรื่องที่ชอบในวันที่มีโปรโมชั่นพิเศษ ฯลฯ
– อดทนรอโอกาสพิเศษ “โอกาสพิเศษที่จะได้ส่วนลด” เช่น มิดเยียร์เซลส์ หรือ โปรโมชั่นของแบรนด์ต่างๆ เพราะช่วงนี้เราจะได้ส่วนลดเป็นพิเศษและคุ้มค่ากว่า หรือ “โอกาสพิเศษของตัวเราเอง” เช่น วันเกิด วันครบรอบแต่งงาน ก็จะซื้อเสื้อผ้า 1 ชุดเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเอง
4.ปาร์ตี้ที่บ้านก็สนุกได้
หลายคนอาจจะเคยชินกับการเลี้ยงฉลองความสำเร็จกับการทานอาหารนอกบ้าน เดินไปถึงร้านสั่งอาหาร นั่งชมวิวสวยๆ พร้อมกับใช้มือถือแชทกับเพื่อน ทานอิ่มก็ไปต่อร้านอื่นส่งท้ายก่อนกลับบ้าน เราน่าจะลองปรับวิธีเลี้ยงฉลองความสำเร็จมาอยู่ในบ้านอันแสนอบอุ่นของเรา เพราะความสุขใดๆ ก็ไม่เท่าอยู่บ้าน ถ้าเรามาจัดงานที่บ้านก็จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ทุกคนช่วยกันจัดสถานที่ ทำกับข้าว จัดเรียงอาหาร แล้วมานั่งคุยกันในบรรยากาศสบายๆ ทั้งประหยัดเงินและได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารักด้วย
5.หารค่าขนมและค่าอาหารกับเพื่อน
น่าแปลกที่ขนมแบบเดียวกัน นั่งกินขนมคนเดียวมันเหงาจับใจ แต่พอมีเพื่อนมาแย่งเพื่อนกินกลับอร่อยขึ้นมาอย่างน่าประหลาด มันเป็นความสนุกที่เงินหาซื้อไม่ได้ อีกประเด็นที่สำคัญ คือ ทำให้เราประหยัดและได้ทานของหลายอย่างด้วย
ไม่ว่าเศรษฐกิจจะวิกฤตเช่นไร สาวออฟฟิศอย่างเราๆ ก็สามารถมีชัยและอยู่รอดอย่างสวยๆ ด้วยการปรับตัวและไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับรายได้ที่มี นี่เป็น 5 วิธีปรับตัวง่ายๆ ที่ทำได้จริง และสามารถสร้างความสุขให้เราได้ทุกๆ วันค่ะ