ห้าม"โลว์คอสต์"ดัมพ์ค่าโดยสารเกิน13บ./กม. แก้จองตั๋วตามโปรฯแล้วไม่มีที่นั่ง

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมการกำหนดอัตราค่าโดยสารของสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ได้พิจารณาการดำเนินงานของสายการบินต้นทุนต่ำภายหลังเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 หรือประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจองตามโปรโมชั่นที่สายการบินกำหนด

แต่เมื่อเข้าไปจองแล้วปรากฏว่าไม่มีที่นั่งเหลือให้บริการตามโปรโมชั่นจริง จึงให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) ไปสร้างความเข้าใจกับสายการบินต้นทุนต่ำ เพื่อให้ทำเป็นมาตรฐานเดียวกันในการแจ้งผ่านช่องทางการจองของแต่ละสายการบินให้เห็นชัดเจนว่าราคาตามโปรโมชั่นมีกี่ที่นั่งและปัจจุบันเหลืออยู่เท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งการร้องเรียนของผู้โดยสารยังเกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการในเรื่องของการโฆษณาเกินจริงกับบางสายการบินมาแล้ว และยังติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ

นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า ปัจจุบันกำหนดเพดานราคาค่าโดยสารขั้นสูงไว้ไม่เกิน 13 บาทต่อกิโลเมตร ดังนั้นสายการบินต้นทุนต่ำจะไม่สามารถกำหนดราคาค่าบริการที่สูงกว่านี้ได้ ส่วนอัตราขั้นต่ำไม่ได้กำหนด แต่ละสายการบินสามารถจัดโปรโมชั่นเพื่อแข่งขันลดราคาในการจูงใจผู้โดยสารให้เข้าใช้บริการได้ แต่จะต้องไม่เป็นการดัมพ์ราคาเพื่อตัดราคาสายการบินอื่นจนไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ และส่งผลเสียในภายหลัง

เพราะเมื่อสายการบินคู่แข่งยกเลิกให้บริการไปแล้ว สายการบินดังกล่าวจะปรับราคาขึ้นสูง เนื่องจากไม่มีคู่แข่ง ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อผู้โดยสารในระยะยาว ทั้งนี้ กระทรวงไม่ได้ห้ามการแข่งขันลดราคาของสายการบินต้นทุนต่ำ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเลือกใช้บริการ แต่จะดูเจตนาของสายการบินแต่ละแห่งว่าเข้าข่ายดัมพ์ราคาเพื่อไม่ให้สายการบินอื่นประกอบธุรกิจต่อไปได้หรือไม่

นางอัมพวัน วรรณโก รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า สายการบินที่เข้าข่ายดัมพ์ราคาต่ำกว่าตลาด ถือเป็นการทำลายตลาดนั้น ต้องมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 50-70% ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี