ใครอยากเป็นเศรษฐี ? รีเชิญทางนี้
Tar Kawin
IDOL DCA ให้ความรู้การลงทุนด้วยภาษาง่ายๆ
เราเคยสงสัยกันไหมครับว่า เราเกิดมาพอถึงเวลาเข้าโรงเรียนก็ไปเรียนหนังสือและต่อมาเมื่อเรียนจบก็หางานทำ เงินเดือนเราจะเยอะหรือจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความสามารถแต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมักจะสงสัยกันคือ ทำไมหนอ คนรวยถึงได้มีเงินหลักล้านได้ แต่มนุษย์เดินดินธรรมดาๆเนี่ยถึงได้มีเงินเดือนที่จำกัด และจะหาเงินจากไหนมารวยเป็นล้าน สิบล้าน ร้อยล้านกับเขาบ้าง
เท่าที่ผมสังเกตมาจริงๆแล้วเราสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นเศรษฐีได้นะครับ แต่มันก็จะมีหลายระดับในการก้าวไปสู่ความร่ำรวย แต่เราสามารถลองเพิ่มศักยภาพตัวเองให้ไปถึงจุดนั้น (ตามความพร้อมของเรานะครับ ฮา)
เศรษฐีลำดับที่ 1 คนเปลี่ยนเก็บเงินออมไม่มีหนี้
เท่าที่ผมได้พูดคุยกับเพื่อนหลายๆคน หนึ่งในปัญหาใหญ่เลยที่ทำให้เขาไม่มีเงินเก็บก็คือ เขามีหนี้สินมากมาย ซึ่งการมีหนี้สินนั้นก็ต้องมีการจ่ายดอกเบี้ยเต็มไปหมด พอถามไปถามมาว่าหนี้สินนั้นเกิดขึ้นเพราะความจำเป็นในการซื้อที่ดินที่อยู่อาศัยหรือเปล่า แต่คำตอบส่วนมากนี่ช็อกไปเลยเพราะส่วนใหญ่ของที่มันไม่จำเป็นดันกลายเป็นสิ่งที่คนเราชอบให้เหตุผลมากกว่าสิ่งที่จำเป็นเพื่อซื้อมันมา นี่ล่ะที่ทำให้หลายๆคนไม่รวยซักที ถ้าเราจัดการหนี้สินและมีเงินออมได้ เชื่อได้เถอะว่าทุกคนจะรวยขึ้นทั้งนั้น ลำดับแรกที่เราจะเป็นเศรษฐีได้ก็คือ “มีเงินออม” เยอะๆนะครับ
ประหยัด 100 บาท มันก็คือได้เงินเก็บ 100 บาทในกระเป๋าเรา
เศรษฐีลำดับที่ 2 คนเปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุน
คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะเพื่อนๆที่ติดตามผมใน Aom Money จะอยู่ในกลุ่มนี้ รวมทั้งตัวผมด้วย เรารู้กันว่าเงินฝากดอกเบี้ยมันน้อยสุดๆ จะสะสมไปถึงเกษียณก็คงต้องใช้เงินเยอะมากที่จะให้ครอบคลุมเงินเฟ้อในอนาคตด้วย วิธีทางที่เราจะสะสมเงินให้มั่งคั่งขึ้นเพื่อไปใช้จ่ายในอนาคตอีกทางหนึ่งก็คือการเอาเงินไปลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อ เช่น การซื้อกองทุนรวม “การออมหุ้น” ในกิจการที่มั่งคงและเติบโตในระยะยและคนที่ประสบความสำเร็จได้ก็คือคนที่ศึกษาเรื่องการลงทุนเป็นอย่างดี แล้วก็เปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุน
มีเงิน 1,000 บาท นำไปลงทุนก็สามารถสร้างผลตอบแทนเป็น 100,000 บาทได้นะครับ
เศรษฐีลำดับที่ 3 คนเปลี่ยนเงินลงทุนเป็นไอเดียธุรกิจ
เชื่อผมไหมว่าคนที่รวยขึ้นมาได้แบบ 100 ล้าน 1,000 ล้าน เนี่ยต้องไม่ใช่ธรรมดาหรอก การลงทุนในหุ้นสไตล์มนุษย์เงินเดือนก็ยากที่จะไปถึง คนเหล่านี้เขาต้องมีความคิดที่จะสร้างบางสิ่งขึ้นมาและเปลี่ยนสิ่งที่เขาคิดให้กลายเป็นเงินทองได้ นั่นก็คือการ “การสร้างธุรกิจ” โดยเริ่มจากกิจการเล็กๆ ขยายไปเรื่อยๆจนกิจการโตขึ้น ซึ่งถ้าทำได้ดีมีการเติบโตในระยะยาว แน่นอนว่าต้องมีลูกค้าและมีคนสนใจจะลงทุนร่วมกับเรา เราก็สามารถขยายกิจการได้โดยการนำเข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์ เพื่อขยายเงินทุนให้เพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ สร้างผลกำไรที่มากขึ้น และแน่นอนว่าคนที่ตั้งบริษัทมานั้นสามารถนำหุ้นไปขายทำกำไรได้กันหลายเท่าเลย
สร้างธุรกิจจาก 1 ล้านบาท นำไปทำธุรกิจระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้กิจการมีมูลค่า 1,000 ล้านได้นะครับ
สรุป
จะเห็นได้ว่าลำดับขั้นของความร่ำรวยมันสร้างได้ โดยเริ่มจากการไม่มีหนี้มีเงินออมก่อน แค่นี้ก็เป็นเศรษฐีในลำดับแรกแล้ว เอาเงินออมเราไปลงทุนกับบริษัทที่คนอื่นหาคนร่วมทุน และสุดท้ายหากเรามีความคิดใหม่ๆที่สร้างเงินได้ เราก็นำเอาไอเดียไปทำธุรกิจและขายให้กับคนที่สนใจในความคิดของเราครับ ก็อยู่ที่พวกเราแล้วว่าอยากจะก้าวไปสู่จุดไหน อยู่ที่ความพอใจและความท้าทายของแต่ละคนนะครับ