Club21เปิดเกม"ดัดหลัง"สินค้าหิ้ว ลดราคาชนเมืองนอก-ดึงขาช็อปไม่ต้องรอเซล

Club21เปิดเกม"ดัดหลัง"สินค้าหิ้ว ลดราคาชนเมืองนอก-ดึงขาช็อปไม่ต้องรอเซล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แฟชั่นนำเข้าดิ้นปรับราคาเท่าเมืองนอก เขย่าเกรย์มาร์เก็ต "คลับ 21" ออกโรงนำร่องดัมพ์ราคาแบรนด์หรู "โพรเอนซา สคูลเลอร์" ลงหมื่นกว่าบาท หรือ 15-20% เท่าราคาช็อปในอเมริกา ด้าน "ธนจิรา" ชี้เดินเกมถูกทาง หลังชิงปรับราคาสูสีฮ่องกง สิงคโปร์มาก่อนหน้า ดึงนักช็อปจับจ่ายในประเทศ ไม่ต้องเสียอิมเมจแบรนด์ ไม่ต้องรอลดราคา

ปัญหาการ "หิ้ว" สินค้านำเข้าโดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สร้างความหนักใจให้กับผู้ได้รับสิทธิ์นำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น เพราะราคาที่แตกต่างกันตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่นขึ้นไป จากโครงสร้างภาษีนำเข้า 30-40% นั้น ล้วนดึงดูดให้นักช็อปและบรรดาแฟชั่นนิสต้าต่างหันไปซื้อสินค้าหิ้วหรือพรีออร์เดอร์จำนวนมาก บวกกับการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกในปัจจุบันทำได้ง่ายมากขึ้น และการเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคต่างรู้ว่า สินค้าอะไร แบรนด์ไหน จากที่ใด มีราคาดีและคุ้มค่าที่สุด

ประเดิมแบรนด์ดัง "โพรเอนซา"


ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ภาพความเคลื่อนไหวและการปรับตัวของผู้นำเข้าจากปัญหาสินค้าหิ้ว มีมาให้เห็นเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น หรือเครื่องสำอาง ล่าสุดบิ๊กแบรนด์ที่ได้สิทธิ์นำเข้าแบรนด์ลักเซอรี่กว่า 30 แบรนด์ อย่าง "คลับ 21" ได้ปรับราคา "โพรเอนซา สคูลเลอร์" แบรนด์หรูกระเป๋าและแอ็กเซสซอรี่ไฮเอนด์ เทียบเท่าช็อปต้นกำเนิดแบรนด์จากอเมริกา ลงไปกว่า 15-20% สำหรับในรุ่นซิกเนเจอร์อย่าง "PS1" ทั้งหมด เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าหันมาซื้อภายในร้านที่บริษัทเป็นตัวแทนนำเข้าแทนที่การบินไปซื้อจากต่างประเทศ โดยประกาศผ่านช่องทาง ๆ ต่างของแบรนด์ เช่น เฟซบุ๊กคลับ 21 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา

หลังจากการสอบถามของผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ไปยังคลับ 21 ระบุว่า จากนี้ไปกระเป๋ารุ่น PS1 จะปรับราคาลงเท่ากับราคาที่สหรัฐอเมริกาอย่างถาวร เพื่อให้แฟนคลับของแบรนด์สามารถซื้อในประเทศได้ในราคาเดียวกัน โดยการซื้อภายใต้ร้านของตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องอย่างคลับ 21 ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่า สินค้าเป็นของแท้ 100% และยังได้รับบริการหลังการขายอย่าง การรับประกันสินค้า 1 ปี ในส่วนของค่าอะไหล่ และค่าซ่อม รวมทั้งการมาเลือกซื้อที่ช็อปยังสามารถเห็นสินค้าจริง และทดลองสะพายว่าเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่

สำหรับราคาที่ปรับลด คิดเป็นมูลค่าตั้งแต่ 7,000-16,700 บาท เฉลี่ย 15-20% อาทิ รุ่น PS1 Pouch จากราคา 49,800 บาท ปรับเป็น 42,800 บาท และรุ่น PS1 Extra Large จาก 99,500 บาท ปรับเป็น 82,800 บาท

ก่อนหน้านี้ ค่ายสินค้าแฟชั่นนำเข้าที่ประกาศใช้กลยุทธ์ราคาใกล้เคียงต่างประเทศอย่างชัดเจน ได้แก่ ค่ายของ "ธนจิรา" ผู้ได้รับสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องประดับ แฟชั่นไลฟ์สไตล์ อาทิ แพนดอร่า, มาริเมกโกะ และโจนาธาน แอดเลอร์


"หิ้วกระเจิง" ส่วนต่างหลักหมื่น

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ฉายภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวให้ "ประชาชาติธุรกิจ" ฟังว่า การที่แบรนด์สินค้ามีการปรับราคาให้สูสีกับตลาดต่างประเทศนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเดินทางท่องเที่ยวของคนที่มากขึ้น และนำเงินไปใช้จ่ายตามแหล่งช็อปปิ้งที่ขึ้นชื่อในด้านต่าง ๆ อย่างกระเป๋าแบรนด์เนมหรือสินค้าชิ้นใหญ่ ซึ่งชิ้นหนึ่งมีส่วนต่างของราคาเมื่อเทียบกับที่ไทยราวหมื่นกว่าบาท

อีกทั้งภาษีนำเข้าของไทยยังเรียกเก็บในอัตราค่อนข้างสูง หรือ 30% ทำให้เสียเปรียบด้านการแข่งขันกับตลาดในภูมิภาค เมื่อมีการปรับราคาลงมาก็จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าหันมาจับจ่ายในประเทศมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะการซื้อในร้านลูกค้ายังได้รับสิทธิพิเศษจากตัวแทนจำหน่ายในด้านต่าง ๆ ทั้งการเห็นสินค้าของจริง บริการหลังการจำหน่าย ฯลฯ

ไม่เซล..ไม่เสียแบรนด์

ผู้บริหารธนจิราขยายความว่า การตั้งราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยลดภาระสินค้าคงเหลือ ที่จะต้องนำไปจัดเซลโปรโมชั่น ทำให้ไม่ต้องเสียภาพลักษณ์แบรนด์อีกต่อหนึ่งด้วย

สำหรับแนวทางของบริษัทกำหนดให้ทุกแบรนด์ตั้งราคาให้มีราคาต่างจากตลาดเพื่อนบ้านอย่างฮ่องกง และสิงคโปร์ไม่เกิน 5% มาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี พร้อมกับการปรับลดการทำโปรโมชั่น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ผู้บริโภคไม่ได้มองแต่สินค้าลดราคา ทิศทางดังกล่าวเริ่มส่งผลให้ลูกค้าเกิดการเรียนรู้ว่า สามารถซื้อสินค้าของบริษัทได้โดยไม่ต้องรอโปรโมชั่น ทำให้ยอดขายในช่วงที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้สภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อขณะนี้จะชะลอตัวก็ตาม

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของสินค้าอย่างอื่นอย่างเครื่องสำอางเมื่อไม่นานมานี้เบิร์ตส์ บีส์ แบรนด์นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ได้ปรับลดราคาสินค้าลงกว่า 30% เท่ากับตลาดอื่น ๆ ในเอเชีย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยเฉพาะกับเกรย์มาร์เก็ต และขยายฐานลูกค้าหน้าใหม่ที่จะเข้ามาทดลองใช้สินค้า เนื่องจากราคาที่เข้าถึงมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook