ปตท.มึนรายได้ครึ่งปีวูบ3แสนล. หั่นลงทุน2หมื่นล.

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. เปิดเผยถึงผลประกอบการช่วงครึ่งแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2558 ว่า มีรายได้อยู่ที่ 1,052,261 ล้านบาท ลดลง 292,501 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 46,330 ล้านบาท ลดลง 11,565 ล้านบาท คิดเป็น 20% ลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากปัจจัยด้านราคาที่ลดลงตามน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อยู่ระดับ 56.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้ปริมาณการขายโดยรวมยังเติบโต

ส่วนผลประกอบการของบริษัทในเครือที่สำคัญ เช่น ปตท.สผ. ที่กำไรเหลือเพียง 6,482 ล้านบาท หรือลดลง 68% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20,277 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับสูงและมีการขาดทุนทางบัญชี ส่วนธุรกิจโรงกลั่น ปิโตรเคมี และอื่น ๆ แม้มีกำไรเพิ่มขึ้นทั้งหมด

"จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ ปตท. ต้องทบทวนแผนการลงทุนถึง 2 ครั้ง ล่าสุดได้ปรับลดวงเงินลงทุนปีนี้ลง 22,117 ล้านบาท เหลือวงเงินลงทุน 55,663 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 77,280 ล้านบาท เนื่องจากต้องการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันและเศรษฐกิจอีกครั้ง บางโครงการลงทุนในต่างประเทศ อาทิ ถ่านหิน จึงต้องชะลอออกไป

นอกจากนี้อาจยกเลิกการลงทุนคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ระยะ 2 ที่เขาบ่อยา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคลังแอลพีจีระยะ 1 จำนวน 250,000 ตัน วงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่เขาบ่อยาเช่นกัน เนื่องจากการใช้แอลพีจีของไทยลดลง มีปริมาณนำเข้าประมาณ 80,000 ตันต่อเดือนหรือลดลงเท่าตัว เพราะรัฐบาลปรับโครง สร้างราคาและยกเลิกนโยบายประชานิยมในการอุดหนุนราคา

ดังนั้นช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ จะมีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อหรือยกเลิกโครงการ เพราะส่วนหนึ่งต้องติดตามว่านโยบายประชานิยมจะกลับมาอีกหรือไม่"