ยอดผู้สมัคร กอช.วันแรกกว่า 150,000 ราย

ยอดผู้สมัคร กอช.วันแรกกว่า 150,000 ราย

ยอดผู้สมัคร กอช.วันแรกกว่า 150,000 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กอช.เผยวันแรกมีผู้สมัคร 153,835 ราย เงินออมประมาณ 137 ล้านบาท คาดสิ้นปีมีผู้สมัครถึง 600,000 คน

นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า วันแรกมีผู้สมัครสมาชิก กอช. และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติผ่านสาขาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย กว่า 3,000 สาขา จำนวน 153,835 ราย มูลค่าเงินออมที่ส่งเข้าระบบประมาณ 137 ล้านบาท เฉลี่ยฝากรายละ 899 บาท โดยกลุ่มผู้สมัครสูงสุดเป็นกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 30-50 ปี ร้อยละ 53 รองลงมาเป็นกลุ่มที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 44 และกลุ่มอายุระหว่าง 15-30 ปี ร้อยละ 2

โดยผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ คาดภายในสิ้นปีนี้จะมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการประมาณ 600,000 คน และภายในปี 2559 จะมีสมาชิกประมาณ 1,500,000 คน รวมถึงภายในปี 2561 จะมีสมาชิกประมาณ 3,000,000 คน โดยในเดือนหน้าเตรียมลงพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน

ทั้งนี้ กอช.เตรียมนำเงินออมที่เข้าระบบก้อนแรกลงทุนในสินทรัพย์ตราสารหนี้ ร้อยละ 80 และตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง ร้อยละ 20 พร้อมมองว่า หากมีเงินออมถึง 10,000 ล้านบาท จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อให้มีผลตอบแทนสูงขึ้นในอนาคต เช่น การให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะต้องมีการเสนอบอร์ดเพื่อพิจารณากรอบการลงทุนอีกครั้งหนึ่ง โดย กอช.จะทบทวนการจ่ายเงินสมทบและเพดานการส่งเงินออมทุก 5 ปี เพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม

นอกจากนี้ กอช.ได้ของบประมาณปี 2559 จำนวน 1,200-1,300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินงาน โดยแบ่งเป็นเงินในการจ่ายสมทบ 1,000 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการ 400 ล้านบาท

เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีโอกาสเข้าร่วมกับทุน กอช.ได้ ส่วนกรณีสมาชิกที่อยู่ในกองทุนประกันสังคมแล้วต้องการเข้ามาอยู่ใน กอช. ขณะนี้อยู่ระหว่างรอทูลเกล้าฯ ในการแก้ไขกฎหมายเพื่อโอนสมาชิกจากกองทุนประกันสังคมมาอยู่ใน กอช. ซึ่งคาดว่าจะโปรดเกล้าฯ ลงมาภายในสิ้นเดือนนี้

สำหรับผู้สมัคร กอช. แบ่งสมาชิกออกเป็น 3 ประเภท คือ ช่วงอายุ 15-30 ปี เมื่อสมาชิกโอนเงินเข้าระบบ รัฐบาลจะโอนเงินสมทบอัตราร้อยละ 50 ของเงินออม แต่ไม่เกินปีละ 600 บาท ประเภทช่วงอายุ 30-50 ปี รัฐบาลจะสมทบในอัตราร้อยละ 80 ของเงินออม แต่ไม่เกินปีละ 960 บาท ประเภทช่วงอายุ 50-60 ปี รัฐบาลจะสมทบร้อยละ 100 แต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาท โดยสมาชิกทุกประเภทสามารถส่งเงินออมได้ไม่เกินปีละ 13,200 บาท. – สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook