ตลาดเอเชียดิ่งหนักมากตามวอลล์สตรีท แฉเจ้าพ่อเฟซบุ๊ก หุ้นร่วงวันเดียวสูญ 7หมื่นล้านบ.!
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียพากันดิ่งตกตามอิทธิพลของตลาดวอลล์สตรีทเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นฮั่งเส็งของฮ่องกง เปิดตลาดร่วงลงกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ หรือ 3,228.57 จุด ส่วนตลาดหุ้นนิเคอิของญี่ปุ่นร่วงตก 2.7 เปอร์เซ็นต์ ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 2.5 เปอร์เซ็นต์ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงตก 0.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ภาวะดังกล่าวถือว่าในวิกฤตยังมีโอกาส เพราะนักลงทุนสามารถช้อนซื้อหุ้นต่าง ๆ ในราคาถูกกว่าปกติได้ แต่ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ภาวะหุ้นตกจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
ขณะเดียวกัน ภาวะตลาดวอลล์สตรีทตกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มหาเศรษฐีทั่วโลกได้ขาดทุนรวมแล้วเฉลี่ยเป็นมูลค่ากว่า 1.82 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 6.3 ล้านล้านบาท) จากอิทธิพลของตลาดหุ้นจีนดิ่งตก และความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีน ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจสำคัญของโลก
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งร่วงหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตราดาวน์โจนส์ร่วงลงกว่า 500 จุด และรวมทั้งสัปดาห์ก่อนตกทั้งสิ้นกว่า 1,000 จุด ขณะที่เหล่ามหาเศรษฐีโลก 400 คน ยังต้องขาดทุนเป็นเงินมูลค่าดังกล่าว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และขาดทุนกว่า 76,000 ล้านดอลลาร์เฉพาะเมื่อวันศุกร์วันเดียว
โดยรายที่หนักที่สุดคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซึ่งต้องประสบภาวะมูลค่าหุ้นที่เขาถือครอง ตกลงถึง 3,900 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อวันพฤหัสบดี สูญราว 2 พันล้าน และวันศุกร์ 1,900 ล้านดอลลาร์ ส่วนนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ พ่อมดตลาดหุ้น มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก ประสบภาวะหุ้นที่ถือครองมูลค่าดิ่งร่วงถึง 3,600 ล้านดอลลาร์ ตลอดช่วงสัปดาห์ท่ผ่านมา โดยกองทุนเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ของเขาได้ตกลงถึง 5 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีโลกที่เผชิญภาวะหุ้นร่วงหนักเฉพาะในช่วงวันศุกร์ ยังรวมทั้งนายเจฟ เบซอส ผู้บริหารของอะเมซอน 1,800 ล้านดอลลาร์ นายลาร์รี่ เพจ ผู้บริหารกูเกิล 1,600 พันล้านดอลลาร์ เซอร์เก บลิน ผู้บริหารกูเกิล 1,600 พันล้านดอลลาร์ นายคาร์ลอส สลิม มหาเศรษฐีชาวเม็กซิโก 1,500 ล้านดอลลาร์
นายอาเมนซิโอ ออร์เตก้า มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจเครื่องแต่งกาย"ซาร่า" 1,400 ล้านดอลลาร์ นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ 1,300 ล้านดอลลาร์ นายเดวิด โคช รองประธานบริษัท"โคช" 1,300 ล้านดอลลาร์ นายชารลส์ โคช ซีอีโอบริษัทโคช 1,300 ล้านดอลลาร์