คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแนวโน้มแข็งค่าอีก

คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแนวโน้มแข็งค่าอีก

คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแนวโน้มแข็งค่าอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศูนย์วิจัยกสิกร ไทยชี้เงินบาทแข็งค่าทะลุ 33 บาท/ดอลลาร์ แตะสูงสุดรอบ 19 เดือน คาดสัปดาห์หน้าแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีกระหว่าง 32.70-33บาท/ดอลลาร์

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เงินบาทในประเทศ (Onshore) สัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15 ม.ค.) แข็งค่าทะลุแนวต้าน 33 แตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือนใกล้ 32.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเป็นการเข้าดูแลตลาดอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เพื่อลดความผันผวนของเงินบาท

อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังคงปรับตัวแข็งค่าเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคท่ามกลางปัจจัยลบที่กดดันเงินดอลลาร์สหรัฐ อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด (ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค.ที่หดตัวลง ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้น) ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐ (หลังเงินบาทแข็งค่าทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยา) เพื่อตัดขาดทุนจากกลุ่มผู้ส่งออก และการเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทขยับแข็งค่าเล็กน้อยมาปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่ระดับ 32.87 เทียบกับระดับ 33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ม.ค.)

สำหรับสัปดาห์หน้า( 18-22 มกราคม 2553) คาดว่า คงจะยังไม่มีปัจจัยที่มีผลต่อสภาพคล่องในตลาดเงินอย่างมีนัยสำคัญ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจึงน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องใกล้ระดับ 1.25%

ส่วนเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ข้อมูลส่งออกไทยเดือน ธ.ค.2552 รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ทิศทางของสกุลเงิน/ตลาดหุ้นในภูมิภาค และสัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของ ธปท.

ขณะที่ ทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐอาจขึ้นอยู่กับการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2552 ของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ อาทิ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐเดือน พ.ย.2552 ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ธ.ค.2552 ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ม.ค.2553 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐ จะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

ในขณะที่เงินเยนแข็งค่าเกือบตลอดสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนมีแรงหนุนในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากที่ รมว.คลังญี่ปุ่นลดเสียงเรียกร้องให้เงินเยนอ่อนค่าลง โดยเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงถูกกดดันต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากข้อมูลการปรับลดตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่มากเกินคาดในเดือน ธ.ค.2552 สร้างความผิดหวังให้กับตลาด

นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงเทขายสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการปรับขึ้นสัด ส่วนการกันสำรองตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจชะลอลงในระยะข้างหน้า ต่อมาเงินเยนอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ หลังจากความกังวลต่อสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนเริ่มเบาบาง ลง

อย่างไรก็ดี เงินเยนฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค.2552 ของสหรัฐ ที่อ่อนแอเกินคาด ตอกย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐจะทรงตัวต่ำไปอีกระยะหนึ่ง สำหรับในวันศุกร์ เงินเยนแข็งค่าต่อเนื่องมาที่ระดับ 90.72 (ตลาดยุโรป) เทียบกับระดับ 92.61 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ม.ค.)

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาผลประกอบการไตรมาส 4/2552 ของเจพีมอร์แกน เชส และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ในช่วงตลาดนิวยอร์ก

ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโรแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ที่ระดับ 1.4557 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโรในช่วงต้นสัปดาห์

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook