ราคากาแฟโลก ร่วง 45% กระทบส่งออกลาวรุนแรง
วีโอเอ ภาษาลาว รายงานในวันนี้ (7 ก.ย.) ว่า รายได้จากการส่งออกกาแฟของสปป.ลาว ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากราคากาแฟในตลาดโลกร่วงลงอย่างรุนแรงกว่า 45% ในขณะที่ผลผลิตกาแฟของสปป.ลาว กลับเพิ่มขึ้นกว่า 98,000 ต้น
รายงานจากกระทรวงเกษตรกรรมและป่าไม้ของสปป.ลาว ระบุว่า เกษตรกรที่ปลูกเมล็ดกาแฟในสปป.ลาว ได้รับผลกระทบมากขึ้น หลังจากที่ราคากาแฟในตลาดโลกตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ซึ่งก็มีการปรับราคาให้ต่ำลงกว่า 45% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคากาแฟอาราบิก้า ที่นับว่าเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ร่วงลงอยู่ที่ 2,687 ถึง 2,755 ดอลลาร์ต่อตัน จากเดิมที่มีราคาสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ต่อตัน
นอกจากนี้ ราคาของกาแฟโรบัสต้า ก็มีราคาร่วงลงเช่นเดียวกัน ราว 1,658 ถึง 1,641 ดอลลาร์ต่อตัน จากเดิมที่มีราคาอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อตัน
ทั้งนี้ ในปี 2557 ที่ผ่านมา เกษตรกรชาวลาวได้ปลูกเมล็ดกาแฟในพื้นที่รวมทั้งหมด 130,000 เฮกตาร์ อยู่ในเขตพื้นที่เมืองปากซอง และเมืองบาเจียง ในแขวงจำปาสัก รวมไปถึงเมืองเลางาม แขวงสาละวัน และเมืองท่าแตง ในแขวงเซกอง โดยมีผลผลิตที่ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ประมาณ 87,000 ตัน
สำหรับปี 2558 นี้ รัฐบาลสปป.ลาว วางเป้าหมายไว้ว่า ต้องการที่จะส่งออกเมล็ดกาแฟให้มากขึ้น 98,000 ตัน และเพิ่มเป็น 120,000 ตันในปี 2563 และ 280,000 ตัน ในปี 2568