แรงงานโรงกลั่นสุราในโคราช ตกงานระนาว หลังถูกรัฐสั่งปิดถาวร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่บรรดาผู้ประกอบการโรงกลั่นสุราชุมชนทั่วประเทศ กว่า 3,900 แห่ง ได้มีการรวมตัวเดินทางไปยื่นหนังสือกับหน่วยงานต่างๆ ที่กรุงเทพมหานคร และยื่นหนังสือที่ศาลปกครอง ให้มีการชะลอการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากที่โรงงานกลั่นสุราชุมชนในแต่ละพื้นที่กำลังถูกเพิกถอนใบประกอบการ และเริ่มทยอยปิดกิจการ ภายหลังได้มีการตรวจสอบโรงกลั่นแล้วพบว่าโรงกลั่นแต่ละแห่งนั้น ผิดแบบแปลนการก่อสร้างในการขอทำโรงกลั่นสุรา แต่ขัดกับการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และได้อนุญาตให้มีการดำเนินการมานานกว่า 10 ปี จนส่งผลกระทบให้กับแรงงานในชุมชนในหลายพื้นที่นั้นต้องตกงานกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด จากการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงกลั่นสุราชุมชนในพื้นที่ ตำบลพุดซา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ที่มีโรงกลั่นสุราชุมชนในพื้นที่กว่า 20 แห่ง พบว่า โรงกลั่นสุราชุมชนส่วนใหญ่นั้นได้ทำการปิดการผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญประเสริฐสุข ที่ทางอธิบดีกรมสรรพสามิตได้สั่งให้สิ้นสุดกำหนดในการผลิตสุราชุมชน เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้อุปกรณ์ในการผลิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ขวดบรรจุสุราชุมชน, สายพานในการลำเลียงขวด, ลังบรรจุขวด และฉลากยี่ห้อสุราชุมชน ถูกกองทิ้งไว้อย่างไม่มีค่า
นอกจากนี้ จากการที่โรงกลั่นสุราชุมชนได้หยุดผลิตลง ได้ส่งผลให้บรรดาแรงงานที่เคยเป็นลูกจ้างในการบรรจุสุราชุมชน ต่างพากันมานั่งจับกลุ่ม พูดคุยถึงปัญหาและทางออกในการหาเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังจากที่ไม่มีงานทำมา 2 วัน ไม่มีเงินในการนำไปใช้จ่ายในครอบครัว จนทำให้บางรายนั้น ต้องไปหาหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้าน หรือบางรายก็ต้องไปกู้เงินนอกระบบด้วยดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 มา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
เช่นเดียวกันกับที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มทรัพย์การสุรา ลูกจ้างภายในโรงกลั่น ต่างช่วยกันเร่งนำอากรแสตมป์ติดที่ขวดสุราชุมชน เพื่อทำการบรรจุใส่ลังส่งลูกค้าเป็นชุดสุดท้าย ก่อนที่จะครบกำหนดปิดโรงกลั่นสุราชุมชนในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.58) ซึ่งส่งผลให้บรรดาลูกจ้างต่างวิตกกังวลถึงเรื่องการถูกเลิกจ้าง เนื่องจากไม่รู้ว่าจะไปหางานที่ไหนทำ เพราะลูกจ้างแต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นคนสูงอายุ ร่างกายไม่แข็งแรงอีกทั้งยังมีภาระที่จะต้องเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัวอีกด้วย
นางหมั่น หาญขุนทด ชาวบ้านในบ้านน้อย หมู่ 14 ตำบลพุดซา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในลูกจ้างโรงกลั่นสุราชุมชน เปิดเผยว่า ตนมีหน้าที่ติดฉลากยี่ห้อสุราชุมชน ซึ่งทำงานนี้มานานกว่า 12 ปีแล้ว โดยยอมรับว่า ตนมีปัญหาเรื่องสายตาจึงทำให้ได้เพียงติดฉลากยี่ห้อสุราชุมชน ซึ่งจะได้ค่าแรงวันละ 250-300 บาท โดยเงินที่ได้มานั้นตนเองก็จะต้องนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และเลี้ยงลูกสาวที่พิการทางสมอง
แต่ตอนนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่โรงกลั่นสุราชุมชนได้ปิดตัวลง เพราะไม่รู้ว่าจะไปหางานที่ไหนทำ เนื่องจากอายุมากแล้ว ทำให้ทุกวันนี้ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายในครอบครัว เพื่อให้อยู่รอดไปวันๆ ตนจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือนายกรัฐมนตรี ลงมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน เพื่อให้โรงกลั่นสุราชุมชนสามารถดำเนินการผลิตต่อไปได้ และเป็นการช่วยเหลือผู้สูงอายุให้มีงานทำ มีเงินใช้จ่ายดูแลครอบครัว
เช่นเดียวกับนางสาวสมภาร สมพลกรัง ชาวบ้านจากบ้านบึงตะโก หมู่ 7 ตำบลพลกรัง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองได้ทราบข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (11ก.ย.58) โรงกลั่นสุราชุมชนที่ตนเองทำงานมานานกว่า 11 ปี จะต้องปิดตัวลงอย่างไม่มีกำหนด ก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และหลังจากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร เนื่องจากตนเองนั้นอายุก็มากแล้ว ไปสมัครงานที่ไหนก็คงไม่มีใครรับ ตนจึงต้องการให้ภาครัฐนั้นได้เข้ามาช่วยเหลือไม่ให้ปิดโรงกลั่นสุราชุมชน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างในพื้นที่ และขอให้ศาลปกครองคุ้มครองโรงกลั่นสุราชุมชน เพื่อที่จะให้ลูกจ้างในโรงกลั่นมีงานทำ มีเงินเลี้ยงดูครอบครัวต่อไป