5 สถานการณ์ประจำวัน ที่เจอแล้วควรขอส่วนลด

5 สถานการณ์ประจำวัน ที่เจอแล้วควรขอส่วนลด

5 สถานการณ์ประจำวัน ที่เจอแล้วควรขอส่วนลด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การขอส่วนลดไม่ใช่เรื่องน่าอายนะครับ แต่โชคร้ายที่ใครหลายคนยังไม่กล้าที่จะทำ อาจเพราะด้วยมารยาท หรือวัฒนธรรมของสังคมไทยเราที่ขี้เกรงใจ อย่างไรก็ตาม การขอส่วนลดก็มีข้อจำกัดของมันอยู่ ว่าเราควรขอในกรณีไหน สถานการณ์ใดบ้าง เพราะหากเราขอไปตามใจเรา อาจจะโดนไล่ออกมาวิ่งหนีแทบไม่ทันเลยก็เป็นได้

ดังนั้น เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับบริการนั้น คุณอาจขอส่วนลด หรือการตอบแทนบางอย่างได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะมันเป็นวิธีที่จะแสดงให้บริการนั้นเห็นว่า “ควรปรับปรุงบริการของคุณได้แล้วนะ” MoneyGuru.co.th จะพาไปดูสถานการณ์ข้างล่างนี้กันครับ ว่ามีสถานการณ์ใดบ้างที่คุณควรขอส่วนลด

1. ได้รับบริการที่แย่

หากคุณไปนั่งทานข้าวตามร้านอาหาร และเป็นช่วงเวลาที่คุณหิวจัด คุณสั่งอาหารไปนานแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววว่าอาหารจานโปรดของคุณจะมาเสียที ต้องนั่งรอแล้วนั่งรออีก จนคุณแน่ใจแล้วว่าเด็กเสิร์ฟต้องลืมอาหารที่คุณสั่งเป็นแน่ หากคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็อย่าลังเลที่จะขอส่วนลดหากทานอาหารเสร็จแล้วนะครับ โดยต้องชี้แจงให้ทางร้านทราบว่า คุณรออาหารนานเท่าไหร่ และทางร้านควรปรับปรุงการบริการในส่วนนี้ยังไง เพื่อในอนาคตทางร้านจะได้ปรับปรุง และพัฒนาบริการให้ดีขึ้นครับ

นอกจากนี้ ในเรื่องของการทานอาหาร หากคุณพบว่าอาหารที่ยกมาเสิร์ฟคุณนั้นเย็นจืดชืด เนื้อยังไม่สุกดี หรือเนื้อไหม้เกรียมจนเกินไป คุณมีสิทธิ์ที่จะขอคุยกับผู้จัดการร้าน และขอส่วนลดได้นะครับ โดยอธิบายไปว่าคุณไม่สามารถทานอาหารที่เย็นชืด หรือไม่สุกนี้ได้แน่นอน ซึ่งร้านอาหารที่ดีส่วนใหญ่จะให้ส่วนลดแก่คุณ หรือไม่คิดราคาอาหารจานนั้นไปเลย และถ้ากรณีที่มันร้ายแรงมากๆ เช่น เจอหนอน หรือแมลงสาบ ถ้าร้านที่ดีก็อาจจะไม่คิดค่าอาหารมื้อนั้นไปเลยครับ

2. ได้ที่นั่งชมคอนเสิร์ตที่บดบังการมองเห็น

หากคุณไปดูหนัง คอนเสิร์ต หรือละครเวที โดยก่อนมาดูคุณวาดฝันไว้อย่างสวยงามว่ามันคงจะสนุกน่าดู แต่เมื่อคุณซื้อตั๋วคอนเสิร์ตสุดแพงและได้ที่นั่งมาแล้ว คุณกลับพบว่าคุณไม่สนุกกับการดูครั้งนี้เอาเสียเลย เนื่องจากที่นั่งคุณมันอยู่ในตำแหน่งที่แย่เอามากๆ เช่น มีสิ่งบดบังการมองเห็นเวทีของคุณ คุณมองเห็นเวทีได้ไม่เต็มที่ เก้าอี้ของคุณชำรุด เป็นต้น ซึ่งหากเจอแบบนี้คุณสามารถขอส่วนลดได้ครับ เพราะคุณไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเท่าคนอื่น ถ้าตำแหน่งที่นั่งของคุณมันแย่ขนาดนั้น

3. สินค้าไม่ครบ

นอกจากอาหาร และบริการที่แย่ๆ แล้ว ยังมีการได้รับสินค้าที่แย่ๆ อีกด้วย ซึ่งหากคุณได้ซื้อสินค้าบางอย่างมา อาจจะทางออนไลน์หรือไปซื้อโดยตรงก็ตาม แต่ข้อมูลที่โฆษณากับสินค้าที่ได้รับกลับไม่ตรงกัน คุณก็สามารถเรียกร้องขอค่าส่วนลดได้ครับ เช่น ตามที่โฆษณามีสินค้า 25 ชิ้น แต่พอซื้อมากลับมีเพียง 23 ชิ้น เป็นต้น โดยความผิดพลาดนี้อาจเกิดจากผู้ผลิตสินค้าใส่สินค้าให้ไม่ครบ และไม่ได้ตรวจดูจำนวนสินค้าให้เรียบร้อยก่อนถึงมือลูกค้า ซึ่งไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม คุณก็มีสิทธิ์ที่จะขอส่วนลดได้ครับ

4. ขายสินค้าตกรุ่น

อย่าปล่อยให้คนขายของหลอกคุณได้ง่ายๆ หากคุณพบว่าสินค้าบางรุ่นมันตกรุ่นไปแล้ว แต่คนขายยังขายในราคาเดิมอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ ดังนั้น หากคุณพบสินค้าที่ตกรุ่นไปแล้ว คุณสามารถคุยกับผู้จัดการร้านเพื่อขอส่วนลดได้ครับ

5. จ่ายเงินสด

สำหรับบางบริการ มีความเชื่อเก่าๆ ว่าผู้ที่จ่ายเงินสดคือพระราชา เพราะนั่นหมายถึง การที่เขาคนนั้นมีเงินจำนวนมากอยู่ในกระเป๋า และไม่จำเป็นต้องยืมเงินในบัตรเครดิตมาจ่ายก่อน ดังนั้น หากคุณมีเงินสดในกระเป๋า ไม่ว่าจะใช้จ่ายเรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ก็จ่ายเป็นเงินสดดีกว่าครับ ซึ่งการจ่ายเป็นเงินสดนั้นก็มีข้อดีคือ คุณสามารถขอส่วนลดได้ อีกทั้งมีบางบริการที่มีเงื่อนไขว่า หากจ่ายเป็นเงินสดจะได้รับส่วนลดด้วยครับ

ยังมีวิธีการขอส่วนลดอีกหลายข้อนะครับ ซึ่งที่เรายกมาให้ดูข้างต้น เป็นสถานการณ์ที่สามารถเห็นได้ชัดในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งคุณสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้ครับ อีกทั้ง การขอส่วนลดนั้นเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย คือ คุณได้ประหยัดเงินในกระเป๋า และทางบริการนั้นได้ปรับปรุงการบริการให้ดีเยี่ยมขึ้นครับ

ติดตามสาระความรู้ และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และประกันภัยรถยนต์ได้ที่ MoneyGuru.co.th

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: Time, Consumerthai, Creditsheep

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook