เริ่มทำงานก็เริ่มรวย ตอน 3 วิธีเก็บเงินในช่วงเริ่มทำงาน

เริ่มทำงานก็เริ่มรวย ตอน 3 วิธีเก็บเงินในช่วงเริ่มทำงาน

เริ่มทำงานก็เริ่มรวย ตอน 3 วิธีเก็บเงินในช่วงเริ่มทำงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อภินิหารเงินออม

สาวหมวยอารมณ์ดี รักงานเขียนและการวางแผนการเงิน มีฝันที่อยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำงานรักการออม


วี๊ดวิ้ววว เราหาเงินใช้เองได้แล้ววววว!!


ทันทีที่เงินเดือนๆ แรกเข้าบัญชีมันเป็นอะไรที่ปลื้มปริ่ม อ๊ากก…#น้ำตาจิไหล ( T_T ) เราโตพอที่จะหาเงินใช้เองได้แล้วหรือนี่ ความรู้สึกอิสระมันเป็นแบบนี้นี่เอง เย่!

มองตัวเลขในบัญชีแล้วหลับตานึกถึงสิ่งของที่เราอยากจะได้ลอยไปมาในอากาศ ภาพมือถือ แท็บเล็ต นาฬิกา กระเป๋า น้ำหอม รถยนต์ บ้าน คอนโด แพ็กเกจท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศและอีกสารพัดสิ่งที่เราอยากได้อยู่ในหัวเต็มไปหมด

จากนี้ไปเราไม่ต้องขอเงินใครอีกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า… ส่วนเรื่องออมเงินอะไรนี่ก็รอไปก่อน วัยรุ่นอยู่ไม่ต้องรีบเก็บเงินก็ได้มั้ง มีเวลาอีกตั้งนาน ตอนนี้เราขอใช้เงินให้คุ้มค่าเหนื่อยก่อนละกันน๊า…



แต่ว่าความมีอิสระนี้ก็อยู่กับเราได้ไม่นาน เพราะ…

“ยิ่งทำงานมาก
ยิ่งได้เงินมาก
ก็ยิ่งใช้จ่ายมาก”

บางครั้งการที่เรามี “รายได้” เพิ่มขึ้น ไม่ได้แปลว่าเราจะมี “เงินเก็บ” มากขึ้น เพราะความมั่นใจในการหารายได้ อาจจะทำให้เราเผลอใจสร้างหนี้โดยไม่รู้ตัว บางคนมีหนี้ก้อนเล็กๆ ก็ยังพอดูแลได้ ในขณะที่บางคนมีหนี้ที่ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง จากหนี้ก้อนเล็กแก้ไขปัญหาไปมาก็เป็นหนี้ก้อนโต

จนกระทั่งทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อน รวมถึงคนที่เป็นเจ้าของหนี้ที่ต้องเสียเครดิตไปด้วย ซึ่งปัญหาหลักเรื่องหนี้ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มาจากเรื่องเงิน แต่มาจากการ “ขาดวินัยทางการเงิน” ที่ใช้เงินตามใจตนเองมากเกินไป

“เราเรียนหนังสือเพื่อหาเงิน
เรารู้จักการออมเงินเพื่อรักษาเงิน”

สำหรับคนที่เพึ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ เมื่อหาเงินได้เองแล้ว จะใช้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่จะมีวิธีใช้อย่างไรละที่จะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้อนาคตได้ ดังนั้น ก่อนที่เราจะเข้าสู่วังวนหนี้สินเพราะขาดวินัยทางการเงินโดยสมบูรณ์ ก็ต้องมารู้จักวิธีป้องกันตนเองไม่ให้ตกลงไปในหลุมพรางนั้นน่าจะดีกว่านะจ๊ะ


3 วิธีเก็บเงินในช่วงเริ่มทำงาน


ฝากเงินไว้กับพ่อแม่


แม้ในวันเงินเดือนออกเราอยากจะนัดแฮงค์เอาท์ชนแก้วฉลองความสำเร็จกับเพื่อนแค่ไหน แต่ก็อย่าลืมคนที่รอเราอยู่ที่บ้านนะจ๊ะ เราอาจจะตอบแทนพระคุณท่านด้วยเงินที่แบ่งไว้ให้ตามกำลังของแต่ละคน แม้ว่าอาจจะเป็นจำนวนไม่มาก แต่ก็ทำให้ท่านรู้สึกดีใจที่เราสามารถดูแลตัวเองและดูแลท่านได้ด้วย 

เงินที่เราให้ไปท่านอาจจะนำมาใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หรือนำไปเก็บออมให้เราเป็นเงินขวัญถุงเพื่อใช้จ่ายยามจำเป็น สิ่งหนึ่งที่เราลองทำมาแล้ว คือ การให้เงินเดือนพ่อกับแม่นั้นทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ยิ่งให้ท่านไปเท่าไหร่ เงินก็ยิ่งกลับมาหาเรามากเท่านั้น อยากรู้ว่าจริงไหมก็ต้องลองทำดูนะจ๊ะ


เก็บเงินในที่ที่ทำให้เงินเพิ่มขึ้นในระยะยาว


“ยิ่งนำเงินลงทุน ผลตอบแทนยิ่งมากขึ้น”

แม้เป็นกระทู้ที่เขียนไว้นานแล้ว แต่ก็ยังสอนใจคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เราจึงขอแคปหน้าจอมาให้อ่านเพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน ว่าจะใช้เงินอะไรก็ควรคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ หากจะอ่านกระทู้แบบเต็มๆ ก็อ่านได้ตามลิงค์ที่แปะไว้ให้นะจ๊ะ

ที่มา : http://pantip.com/topic/30968968

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่แชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นข้อเตือนใจให้คนอื่นนะจ๊ะ จากข้อความจะเห็นได้ว่าเจ้าของกระทู้มี “เป้าหมายว่าต้องการบังคับตนเองให้เก็บเงิน” โดยเก็บในรูปแบบการซื้อรถยนต์ที่ราคาลดลงเรื่อยๆ รวมถึงเกินความจำเป็นเพราะบ้านใกล้ที่ทำงาน จึงเป็นการก่อหนี้ที่สร้างความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ไม่สร้างรายได้เข้ามาแต่อย่างใด ถ้าหากต้องการบังคับตนเองให้ออมเงิน ก็ควรหาที่เก็บเงินที่ทำให้เงินเติบโต สร้างรายได้ในรูปแบบดอกเบี้ยหรือเงินปันผลมาให้เรา


เก็บเงินก่อนใช้ อย่างน้อยให้ได้เดือนละ 10%


เริ่มขั้นต้นการออมเงินโดยตัดเงินมา 10% มาออมไว้ก่อนเป็นอย่างต่ำ (หากใครจะออมมากกว่านี้ก็ยิ่งดีนะจ๊ะ) แล้วเงินที่เหลือหลังจากนี้ค่อยนำมาใช้จ่ายต่อไป หลายคนเริ่มอยากจะรู้ว่าแล้วจะเริ่มออมเงินไว้กับอะไรดีละ??

การเลือกที่เก็บเงินอย่างเหมาะสมก็จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น โดยที่เราไม่ต้องทำงาน เพียงแต่เราควรให้เวลาศึกษาว่าอะไรบ้างที่จะทำให้เงินออมของเราเพิ่มขึ้น ภาพนี้เป็นตัวอย่างการลงทุนที่จะทำให้เงินของเรางอกเงย โดยการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยนั้นมีผลตอบแทนต่ำจะเป็นสีเขียวทางด้านซ้ายมือ นั่นคือ เงินฝาก แล้วระดับความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปทางขวามือ ความเสี่ยงที่สูงขึ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนก็จะสูงขึ้นด้วย หากเราต้องการเก็บเงินจริงๆ ก็ควรเริ่มศึกษาจากการลงทุนในภาพนี้


ที่มา : เพจ Mr.Messenger

เงินของเราก็ต้องดูแลเอง โดยทำความเข้าใจกับการลงทุนแต่ละประเภทว่ามีหลักการอย่างไร เพื่อจะได้เลือกให้ตรงกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้มากที่สุด ซึ่งความรู้ต่างๆ เราสามารถศึกษาออนไลน์ได้ที่ www.tsi-thailand.org โดยจะมีตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมือใหม่จนกระทั่งกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในที่สุดนะ

แนวทางการตัดสินใจเลือกการเก็บเงิน
0เงินฝาก เก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เก็บเงินฉุกเฉิน (ควรเก็บเงินฉุกเฉินไว้ 3-6 เดือนของค่าใช้จ่าย)
0ตราสารหนี้ เน้นเงินต้นปลอดภัย มีรายได้สม่ำเสมอจากดอกเบี้ย
0ตราสารทุน (เรียกสั้นว่า หุ้น) เน้นเงินทุนเติบโตจากการการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นและรับเงินปันผล
0กองทุนรวม ทางเลือกของคนที่ไม่มีเวลา ไม่มีความชำนาญในการติดตามข่าวสารการลงทุนเอง ที่สำคัญควรอ่านหนังสือชี้ชวนเพื่อเข้าใจผลตอบแทนและความเสี่ยงของนโยบายการลงทุน

0อนุพันธ์ เน้นป้องกันความเสี่ยง(ตามหลักการ)และเก็งกำไร(ตามความจริง)


ขณะนี้คนวัยทำงานสามารถเริ่มออมแบบออนไลน์ได้ง่ายๆ โดยการออมเงินในกองทุนรวมผ่านระบบการออมตัดบัญชีแบบอัตโนมัติ ที่ใครๆ ก็ทำได้ง่ายมาก อ่านวิธีการอย่างละเอียดไว้ที่ 3 ขั้นตอนรวยได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส (http://www.aommoney.com/?p=8267) หากเราเลือกวิธีการเก็บเงินที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มทำงาน ก็จะทำให้อนาคตเราสดใสแน่นอน

บทความจาก www.aommoney.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook