เศรษฐกิจฝืด เงินฝากคนไทยหดต่ำสุดรอบปี

เศรษฐกิจฝืด เงินฝากคนไทยหดต่ำสุดรอบปี

เศรษฐกิจฝืด เงินฝากคนไทยหดต่ำสุดรอบปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับสัญญาณเงินฝากเดือน ก.ค. ต่ำสุดรอบ 6 เดือน ระบุ "อีสาน-ภาคใต้" ลดลงต่อเนื่อง แบงก์ชี้ผู้ฝากเงินเจอพิษเศรษฐกิจ รายได้ภาคเกษตรตกต่ำ กูรูวิเคราะห์สินเชื่อแบงก์โตต่ำ ดอกเบี้ยน้อย ไร้แรงหนุนอัดแพ็กเกจระดมเงินฝาก


ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ข้อมูลสถิติเรื่องเงินรับฝากและเงินให้สินเชื่อจำแนกรายภาคในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 2558) ยอดคงค้างเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ณ สิ้นเดือน ก.ค. มีจำนวน 11,861,300 ล้านบาท ส่วนยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อ มีจำนวน 12,755,809 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก 107.54% โดยยอดคงค้างเงินฝากและสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.4% และ 3.1% ตามลำดับ ส่วนสัดส่วนเงินฝากต่อสินเชื่อลดลงจาก ก.ค. 2557 ซึ่งอยู่ที่ 110.96%

อย่างไรก็ตาม ยอดเงินฝากในเดือน ก.ค. ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่มียอดเงินฝาก 11,849,129 ล้านบาท โดยในเดือนนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และภาคใต้ มียอดเงินฝากคงค้างลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน มาอยู่ที่ 6.28 แสนล้านบาท และ 6.21 แสนล้านบาท ตามลำดับ ส่วนภาคเหนือลดลงต่ำสุดรอบ 7 เดือนมาอยู่ที่ 6.05 แสนล้านบาท แม้ว่าภาคกลาง และกรุงเทพฯ ยังสามารถรักษาระดับเงินฝากให้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท และ 7.4 ล้านล้านบาท ตามลำดับ

นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ที่ลดลง เชื่อว่ามีปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ภาคธุรกิจและผู้ฝากเงินรายย่อยประสบปัญหาสภาพคล่องตึงตัวจากภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง และมีหนี้ไม่สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง

ขณะที่สถาบันการเงินก็ไม่มีความจำเป็นระดมเงินฝากเพื่อมาปล่อยสินเชื่อ เพราะความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นสถาบันการเงินจึงไม่ได้ออกแพ็กเกจเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษมามากนัก ผู้ฝากจึงขาดแรงจูงใจฝากเงิน และเป็นเหตุให้ยอดเงินฝากในระบบลดลง

อีกทั้ง การที่ ธปท. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาถึง 2 ครั้งและปัจจุบันอยู่ในอัตรา 1.50% ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำมาก จึงทำให้เกิดการโยกเงินฝากไปสู่การลงทุนประเภทอื่นๆ ที่สร้างผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์

นางพรรณพร คงยิ่งยง รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ระดับเงินฝากทั่วไปและเงินฝากที่เป็นลูกค้าคนรวยตามสาขาในภูมิภาคปรับตัวลดลงตามสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้เงินฝากของแบงก์ใน 2 ภาคดังกล่าว ลดลงประมาณ 4-5% ขณะที่ในภาคตะวันออกในบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวปริมาณเงินฝากก็ปรับลดลงเช่นกัน

"ตอนนี้ต้องยอมรับว่าลูกค้าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และปัญหาหนี้ครัวเรือนค่อนข้างมาก ทำให้ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือประชาชนทั่วไปค่อนข้างระมัดระวังตัว และตุนเงินสดไว้ใช้หมุนเวียนธุรกิจหรือเพื่อสำรองในการดำรงชีวิตมากกว่า" นางพรรณพรกล่าว

นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ขณะนี้ระดับเงินฝากของธนาคารกสิกรไทยโดยภาพรวมเติบโตราว 1-2% ไม่ถึงกับหดตัวแต่ก็ไม่ได้เติบโตในระดับที่สูงมาก ถือเป็นการเติบโตสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะเดียวกันธนาคารก็ให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำลูกค้าเพื่อนำเงินไปลงทุนในการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook