ทีดีอาร์ไอเสนอรัฐพัฒนาประชาธิปไตยฐานราก

ทีดีอาร์ไอเสนอรัฐพัฒนาประชาธิปไตยฐานราก

ทีดีอาร์ไอเสนอรัฐพัฒนาประชาธิปไตยฐานราก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในการเสวนาสาธารณะ เรื่อง “ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย แนวโน้ม นโยบาย และแนวทางขับเคลื่อนนโยบาย” ว่า ประเทศไทยยังมีความเหลื่อมล้ำสูงกว่าเกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่ระดับการพัฒนาเท่ากัน สาเหตุมาจากปัญหาโครงสร้าง รายจ่ายการดูแลภาคประชาชนต่ำ ทั้งนี้ สาเหตุมาจากโครงสร้างทางการเมืองไม่เท่าเทียมกัน กระจุกอยู่บางกลุ่ม ส่งผลให้นโยบายลดความเหลื่อมล้ำไม่ถูกปฎิบัติจริง

ดังนั้น แนวทางการลดความเหลื่อมล้ำ คือ การพัฒนาประชาธิปไตยจากฐานรากให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเองเพื่อมีรายได้มากขึ้น ควบคู่กับนโยบายการคลัง ปรับระบบภาษีให้ครอบคลุมทุกฐานเท่าเทียมกัน เช่น การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งหากจัดเก็บจะเพิ่มรายได้ให้รัฐถึง 100,000 ล้านบาทต่อปี เก็บภาษีมรดกอย่างจริงจัง เพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะกลุ่มผู้มีรายได้สูงเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมากที่สุด เก็บภาษีเงินได้จากแรงงานที่อยู่นอกระบบ

ยกเลิกการใช้สิทธิประโยชน์กองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมเสนอว่ารัฐบาลควรใช้ระบบสวัสดิการสังคมที่ดี เน้นเดินทางสายกลางระหว่างรัฐและทุกภาคส่วนทั่วถึงครบถ้วนไม่แพง มีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำได้จริง ซึ่งในกลุ่มประเทศ OECD ใช้ระบบสวัสดิการเพื่อความยั่งยืนดูแลประชาชน

ส่วนโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชน เห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และเพิ่มกำลังซื้อประชาชนในต่างจังหวัดมากกว่าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอาจมีผลต่อการสร้างรายได้บ้าง แต่เป็นแค่ระยะสั้น ดังนั้น ควรเน้นการสร้างอาชีพระยะยาว โดยใช้ไมโครไฟแนนซ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการปล่อยสินเชื่อให้ระดับฐานราก ซึ่งมีวินัยการเงินการคลังด้วย


ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำควรมีระบบสวัสดิการสังคมที่ดีมาช่วยคน โดยต้องเป็นระบบที่เหมาะสมกับไทย แต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่แก้ปัญหาได้ โดยปัญหาหลักอยู่ในกลุ่มคนรวยมากและกลุ่มคนจน เพราะมีความเหลื่อมล้ำสูง โดยต้องปฎิรูปเรื่องการเงินฐานราก ปฎิรูปที่ดิน ปฎิรูปภาคเกษตร เพิ่มช่องทางการเข้าถึง และ สร้างโอกาสที่เท่าเทียม.-สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook