5 ทายาทนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงแชร์มุมมอง...ทำธุรกิจ SME อย่างไรให้รุ่ง?
ในโลกแห่งธุรกิจที่ต้องมีการแข่งขันสูงในยุคปัจจุบัน ทำให้นักธุรกิจหน้าใหม่ๆ ที่ต้องการสร้างโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตัวเองอาจจะต้องทำงานกันหนักขึ้น ซึ่งการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆ ก็ทำได้ บางคนอาจถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัวกันเลยก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ด้วยแล้ว บางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องมีที่ปรึกษาดีๆ ซักคน ที่จะมาคอยให้แง่คิดและมุมมองต่างๆ ในการทำธุรกิจ เพื่อพาคุณทะยานมุ่งไปสู่ฝัน
ลองมาฟังประสบการณ์เจ๋งๆ จาก 5 ทายาทนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ต้องรับหน้าที่สืบทอดกิจการของครอบครัว วันนี้พวกเธอจะมาถ่ายทอดเทคนิคและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคนที่อยากเป็นผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จบ้างในอนาคต
ผ้าป่าน วิตตรา พิสิฏฐพันธ์ ทายาทธุรกิจ พี.เค.เบเกอรี่
ผ้าป่าน สาวน้อยหน้าใสวัย 23 ปี ที่จบมาทางด้าน Interior Design ต้องเข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นโรงงานรับจ้างผลิตขนมปังทุกชนิด (Original equipment manufacturer หรือ OEM) ให้กับห้างสรรพสินค้าและร้านเบเกอรี่ทั่วไป และด้วยเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ทำให้ผ้าป่านคิดพัฒนาสินค้าใหม่เอาใจคนรักสุขภาพ ด้วยการทำขนมปังเพื่อสุขภาพในแบรนด์ใหม่ของตัวเอง “Kafer House” ด้วยส่วนผสมที่ดี มีประโยชน์ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพอย่างแท้จริง ส่งขายร้านสุขภาพเพิ่มเติมจากร้านเดิมที่ครอบครัวเคยส่งขาย และหลังจากได้เข้าร่วมโครงการ K SME Care แล้ว ผ้าป่านบอกเลยว่าได้รู้จักเพื่อนร่วมธุรกิจเยอะขึ้น
“ผ้าป่านเคยรู้มาว่าโครงการ K SME Care เป็น Top Ranking ของโครงการอบรมสำหรับผู้ประกอบการ SME ซึ่งพอมีโอกาสได้เข้ามาเรียน รู้สึกว่าเป็น Class ที่มีคนเรียนเยอะมาก และมีความหลากหลายของธุรกิจ ซึ่งการได้เข้ามาเรียน เป็นประโยชน์กับธุรกิจเบเกอรี่ของป่านมาก เพราะได้รู้จักพี่ที่ เป็นเจ้าของธุรกิจอุปกรณ์เบเกอรี่รายใหญ่ ซึ่งผ้าป่านสามารถติดต่อขอซื้ออุปกรณ์ทำขนมปังให้ที่บ้านได้ในราคามิตรภาพ นอกจากนี้ด้วยความที่ผ้าป่านเป็นเหมือนน้องเล็ก การได้เข้ามาเรียนจึงได้รับการดูแลจากพี่ๆร่วมรุ่นเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนอะไร จะมีคนคอยดูแลเทคแคร์เราตลอดเวลา บางครั้งเวลามีปัญหา ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยลองปรึกษาพี่ที่เรียน ทำให้รู้ว่าปัญหาที่เจอไม่ได้เจอคนเดียว มีคนเคยเจอปัญหาแบบเรามาแล้ว และที่สำคัญเขาข้ามผ่านปัญหานั้นมาได้”
ผ้าป่านยังทิ้งท้ายไว้อีกว่า “ผ้าป่านมองว่าการได้คู่ค้าจากการเรียนถือเป็นความโชคดีทางธุรกิจ แต่การได้เพื่อนที่ดี ได้มิตรภาพที่ดี ถือเป็นกำไร ที่หาจาก Class อื่นไม่ได้ เพราะถ้าเปรียบแล้ว SME เป็นเหมือนต้นไม้ ที่มี Connection เป็นกิ่ง แต่ถ้า SME ไม่มีการพัฒนาตัวเองรวมทั้งไม่สร้างเครือข่ายให้มากขึ้น ก็จะเป็นได้แค่ต้นไม้ที่มีเพียงลำต้น แต่ไม่สามารถเติบโตจนมีกิ่งก้านสาขาใบดอกและผลได้ ผ้าป่านขอฝากกับ SME รุ่นใหม่ทุกคนว่า ขอให้ทุกคนมุ่งมั่น ตั้งใจ ปัญหาทุกปัญหามีทางออก ผ้าป่านคิดว่าการมี Connection ที่ดี จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้หาทางออกได้เร็วขึ้นอีกทางค่ะ ”
กิ่ง กิ่งกาญจน์ อมรมุนีพงศ์ ทายาทธุรกิจ เดอะเนเชอรัลโกรท
หลังเรียนจบกิ่งต้องมารับช่วงกิจการต่อจากคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการวางมือจากธุรกิจข้าว Organic ซึ่งเมื่อกิ่งเข้ามาบริหารกิจการได้เพียงปีครึ่ง ก็เริ่มมีแนวคิดที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยเน้นไปที่ตลาดส่งออกก่อนเป็นอันดับแรก เพราะแนวโน้มตลาดเพื่อสุขภาพกำลังโต
แต่ด้วยความที่อายุยังน้อย และเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก กิ่งจึงรู้จักเพื่อนในเมืองไทยไม่มาก ทำให้บ่อยครั้งต้องเสียโอกาสในการหาคู่ค้าใหม่ หรือเสียช่องทางการตลาด จนได้มาร่วมโครงการ K SME Care โครงการดีๆ ที่นอกจากจะให้ความรู้แล้ว ยังเน้นการสร้างเครือข่ายธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ SME
กิ่งบอกกับเราว่าการเข้าร่วมโครงการ K SME Care ทำให้มีโอกาสเรียนรู้ และได้มุมมองใหม่ๆ ซึ่งนำไปใช้กับการบริหารธุรกิจที่ทำอยู่ได้ดีเลยทีเดียว
“ตอนแรกกิ่งก็ไม่เชื่อว่าการเรียนจะได้ Network จริงหรือ แต่พอได้มาเรียน เหมือนการเปิดโลกทัศน์ของกิ่งให้กว้างขึ้น นอกจากกิ่งจะได้รู้จักเพื่อนที่มาเรียน ซึ่งทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ ของเพื่อนที่ทำธุรกิจในด้านอื่น ๆ แล้ว กิ่งยังมีโอกาสได้เรียนรู้ประสบการณ์ของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่นำความรู้มาแชร์ ทำให้กิ่งรู้ว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราไม่รู้ ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มองข้ามไป เช่น เรื่องการให้ Incentive เพียงเล็กน้อย อาจจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่ากลับมาก็ได้
อย่างธุรกิจของกิ่งจะติดต่อกับ Contract Farming ที่อยู่ต่างจังหวัด โดยมีตัวแทนในพื้นที่ช่วยประสานงานให้ ถ้าเราให้ค่าตอบแทนเขาเพิ่มขึ้นตามผลงานที่ทำได้ ก็จะทำให้เราได้ผลผลิตที่มีคุณภาพในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม เรื่องแบบนี้ จริงๆอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันกระตุ้นให้เราคิดและได้เรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับการบริหารธุรกิจที่กิ่งทำอยู่ได้อย่างดี”
กิ่งฝากแง่คิดดีๆ ให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ในอนาคตไว้ว่า “กิ่งเชื่อว่า การเรียนรู้ เกิดขึ้นได้จากการเริ่มต้นฟังคนอื่นเยอะๆ จะทำให้เรารู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ ยิ่งถ้าฟังแล้วนำมาใช้ประโยชน์ ยิ่งทำให้การทำธุรกิจไปได้อย่างไม่สะดุด”
อ้อม เกสรา กาญจนรัตนภูมิ ทายาทธุรกิจ ดิจิตอล สเกล แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง
อ้อม ทายาทธุรกิจเครื่องชั่งดิจิตอล ที่หลังเรียนจบและทำงานหาประสบการณ์จากที่อื่นมาแล้ว ในที่สุดก็ตัดสินใจเข้ารับหน้าที่บริหารธุรกิจของที่บ้านร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ด้วยความที่มีคู่แข่งทางธุรกิจเยอะ ทำให้อ้อมต้องคิดกลยุทธ์ทางการเพื่อสู้กับคู่แข่งอยู่ตลอด โดยอ้อมเชื่อว่านอกเหนือจากการมีสินค้าและบริการหลังการขายที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การมีเครือข่ายหรือพันธมิตรธุรกิจที่ดี ที่สามารถให้ความรู้และคำปรึกษาทางด้านธุรกิจได้ทุกๆ เรื่อง
“หลังจากได้รับข้อความจากโครงการ K SME Care 21 ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ร่วมอบรมครั้งนี้ อ้อมตื่นเต้นดีใจมาก ยิ่งกว่ารู้ผลเอ็นทรานซ์อีก เนื่องจากรุ่นพี่ที่เคยเรียน บอกว่าเข้ามาเรียนไม่ง่ายนะ และถ้าได้เข้ามาจะเรียกว่ายิ่งกว่าการได้โอกาส เพราะมันคือความโชคดี โชคดีที่รู้จักเพื่อน พี่ น้อง ที่ไม่ได้มีแต่คำว่าธุรกิจ แต่เหมือนเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ทำให้เรารู้สึกว่า ทุกเช้าวันเสาร์เราต้องตื่นมาเรียน มาเจอทุกคนในห้องเรียน
จริงๆอ้อมว่าครอบครัว K SME Care 21 เรียกได้ว่าเป็น Google ย่อมๆเลยก็ได้ เพราะเวลาที่อ้อมมีปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจหรือส่วนตัว แค่เข้ามาบอกในกรุ๊ป K เพื่อนๆพี่ๆทุกคนพร้อมเป็นที่พึ่งและหาคำตอบให้ได้ทุกเรื่องจริงๆ กลุ่มเพื่อนใน K SME Care 21 ให้ความรู้และคำปรึกษาได้ดี ทุ่นเวลากว่าการที่อ้อม Search หาข้อมูลใน Google อีกค่ะ ”
นอกจากนี้อ้อมยังทิ้งทายไว้อีกว่า “อ้อมมองว่า ทุกวันนี้โลกหมุนเร็วขึ้น คนรุ่นใหม่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองมากกว่าทำงานบริษัท มีหลายคนประสบความสำเร็จ หลายคนล้มเหลว ในฐานะที่อ้อมเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงอยากให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องมีความอดทน หากเจออุปสรรค ก็อย่าเพิ่งท้อ ที่สำคัญกำลังใจจากครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะช่วยผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ”
ออม พรนภัส มิตรเกื้อกูล ทายาทธุรกิจ สองพันบุรี ดีเวลลอป
ออม นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของโรงแรมสองพันบุรี โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี และด้วยวัยไม่ถึง 30 ปี ทำให้ออมต้องเจอกับปัญหาในการบริหารคนเพราะจับได้ว่ามีคนทุจริตในโรงแรมของเธอ และยังเป็นคนที่คุณพ่อของเธอไว้วางใจอีกต่างหาก
“การจับทุจริตคนที่คุณพ่อไว้ใจ เป็นเรื่องหนักใจของออม เพราะออมเป็นเด็ก ถ้าไปพูดกับคุณพ่อ ท่านอาจจะไม่เชื่อ และคิดว่าถ้าคนนี้ไม่อยู่ ออมจะบริหารแทนได้ไหม แต่ออมก็พิสูจน์ตัวเอง จนในที่สุดคุณพ่อก็เชื่อ และได้ให้พนักงานที่ทุจริตออกจากงานไปได้และเป็นสาเหตุให้หัวหน้าแผนกซึ่งเป็นคนที่คุณพ่อไว้ใจต้องลาออกไปด้วย เพราะมีส่วนร่วมในการทุจริตในครั้งนี้”
ออมยังบอกอีกว่าการได้เข้ามาเรียนที่ K SME Care ช่วยอะไรเธอได้มากมาย “ในโลกธุรกิจที่เจอ ไม่เหมือนในบทเรียน เพราะมีปัญหาที่ต้องแก้ทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องคน ดังนั้น ต้องทันโลก ทันคน การมีเพื่อนเยอะ มี Network ที่ดี จะช่วย Update ข่าวสารได้มากขึ้น ยิ่งออมได้มีโอกาสเรียน K SME Care 21 นี้ ทำให้ออมรู้สึกว่า ได้ทั้งความรู้ในการทำธุรกิจ และเครือข่ายที่ดี อย่างธุรกิจโรงแรมของออม กำลังจะ Renovate ออมก็ได้เจอเพื่อนที่ทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งความเป็นเพื่อน ทำให้เราได้ของดีมีคุณภาพ ต้นทุนในการ Renovate โรงแรมก็ลดลง ถือว่าออมโชคดีมากที่มีโอกาสได้เข้ามาเรียนหลักสูตรที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ SME รุ่นใหม่อย่างออมค่ะ
ฝัน ดร.ณัฐธิดา ยงค์สงวนชัย ทายาทธุรกิจ ดี.ซี.โกดังและโรงงาน
ดร.ฝัน เจ้าของดีกรีปริญญาเอกด้านเภสัช แต่ต้องมาดูแลธุรกิจครอบครัวซึ่งเป็นครอบครัวคนจีนขนาดใหญ่ และมีแนวคิดว่าการทำธุรกิจนั้นต้องมีการกระจายความเสี่ยง เพราะกลัวว่าหากทำธุรกิจเดียวแล้วเมื่อมีปัญหาจะแย่ไปหมด ดังนั้นครอบครัวจึงทำธุรกิจหลายอย่างทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์ โกดังให้เช่า และร้านทอง เป็นต้น และตัว ดร.ฝันเองก็กำลังหุ้นกับเพื่อนทำธุรกิจชุดชั้นในสำหรับออกกำลังกายในแบรนด์ Dimensions Activewear
ดร.ฝันบอกกับเราว่า ข้อดีที่ของการที่ครอบครัวทำธุรกิจหลากหลายนั้น ทำให้เธอมีโอกาสเรียนรู้แนวคิดในการทำธุรกิจ แต่การจะนำเสนออะไรใหม่ๆ เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวยอมรับนั้นก็เป็นไปได้ยากเพราะแต่ทุกคนก็มีแนวคิดเป็นของตัวเองและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมานาน แต่ด้วยความที่ดร.ฝัน เรียนจบปริญญาเอก และเป็นคนที่ชอบสอน เพราะฝันคิดเสมอว่า ชีวิตเราจะมีค่า ถ้าเกิดมาเพื่อพัฒนาชีวิตคนอื่น เป็นสิ่งที่ทำให้ฝันอยากเรียนรู้และนำมาถ่ายทอดให้คนอื่นฟัง เพื่อให้เค้าพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่ง เมื่อได้มาเรียนในโครงการ K SME Care 21 ก็นำความรู้ที่ได้กลับไปถ่ายทอดให้คนในครอบครัวซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก
“หลังจากที่ฝันได้มีโอกาสได้มาเรียนที่นี่ รู้สึกเป็นความโชคดี ที่ได้เรียนรู้ประสบการณ์การทำธุรกิจจากเจ้าของธุรกิจที่มีชื่อเสียง เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ ฝันมองว่าบางเรื่องที่เค้าสอน เป็นเรื่องที่เราคิดไม่ถึง เช่น เรื่องพนักงาน เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับฝัน เพราะที่บ้านมีพนักงานประมาณ 800 คน การที่ฝันได้เรียนรู้เรื่องการบริหารคน และนำเทคนิคบางอย่างไปใช้ช่วยให้ฝันทำงานได้ง่ายขึ้น”
“พอช่วงหลังๆ คนในครอบครัวเริ่มเปิดรับความรู้จากฝันมากขึ้น และนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้กับธุรกิจด้วย นอกจากความรู้ที่ได้แล้ว ฝันยังได้คู่ค้าเพิ่มขึ้นจากเพื่อนร่วมรุ่นที่ขอเช่าพื้นที่โกดังสำหรับเก็บสต็อก ถือเป็นการสร้างสายป่านทั้งมิตรภาพและธุรกิจไปในตัว”
ทั้ง 5 สาวต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าการมีที่ปรึกษาที่ดีอย่าง K SME Care นั้น ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด อีกทั้งยังไม่ได้เป็นแค่โครงการที่ ส่งเสริมองค์ความรู้เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้เติบโต อีกทั้งยังสร้างเป็นการเครือข่ายทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ SME อีกด้วย ซึ่งหากคุณสนใจสามารถติดตามรายละเอียดเข้าร่วมโครงการ K SME Care ได้ที่ http://www.kasikornbank.com/SME
Advertorial