ฎาร์รักษ์ วุฒิชาติ พลิกอาชีพอิสระสู่ธุรกิจ

ฎาร์รักษ์ วุฒิชาติ พลิกอาชีพอิสระสู่ธุรกิจ

ฎาร์รักษ์ วุฒิชาติ พลิกอาชีพอิสระสู่ธุรกิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้หญิงหลายคน เมื่อคิดจะมีครอบครัวและเจ้าตัวเล็ก ก็มักจะเลือกทิ้งงานประจำ เพื่อออกมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ และนั่นทำให้หลายคนหางานอิสระทำควบคู่กันไปด้วยในยามว่าง รวมถึง โบว์- ฎาร์รักษ์ วุฒิชาติ คุณแม่ลูกสอง

ฎาร์รักษ์ ทำงานประจำมานานร่วม 10 ปี ครั้นเมื่อตั้งใจจะมีน้อง เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่กำลังไปได้ดี เพื่อมาเตรียมร่างกายและหวังที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง จากคนที่เป็นเวิร์คอะฮอลิก (Workaholic) เมื่อต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ ก็เริ่มเกิดอาการคิดถึงงานคิดถึงสังคม ประกอบกับช่วงตั้งครรภ์เธอได้เรียนคอร์สโยคะทั้งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และสำหรับเด็กเพื่อจะเอาไว้มาเล่นออกกำลังกายกับลูกๆ จึงเกิดความชอบและได้เรียนเพิ่มเติมสำหรับการเป็นครูฝึกด้วย กระทั่งเมื่อโอกาสเหมาะความชอบที่เป็นงานอดิเรกกับกลายเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ของเธอ

“ตอนน้องยังเล็กก็เริ่มจากเปิดบ้านตัวเองสอนโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือคนที่มีปัญหาสุขภาพที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ บ้าน ตามเวลาที่เขาสะดวก แล้วก็จัดสรรเวลาออกทำงานกับเพื่อนต่างชาติกลุ่มหนึ่งที่เข้าไปสอนโยคะสำหรับเด็กในโรงเรียนนานาชาติ และพอน้องเริ่มโตพอก็ออกไปสอนตามสตูดิโอต่างๆ ซึ่งเวลาไปสอนก็จะเอาน้องไปด้วย พอน้องเข้าโรงเรียน ซึ่งจะเรียนแค่ครึ่งวันเช้าพอไปส่งเขาที่โรงเรียนก็จะออกไปสอนบ้างในช่วงครึ่งเช้า”

หลังจากสั่งสมประสบการณ์จากการเป็นครูสอนโยคะ ประกอบการเห็นโอกาสทางธุรกิจที่มีคุณแม่ที่รักสุขภาพและห่วงใยสุขภาพของลูกน้อยมากขึ้น ประกอบกับมีปัญหาการเดินทางระหว่างบ้าน โรงเรียนลูก และสตูดิโอ ฎาร์รักษ์ จึงลงมือทำตามฝันที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเอง ด้วยการเปิดสตูดิโอสอนโยคะสำหรับเด็กชื่อ Baby Yoga Bangkok ย่านเหม่งจ๋าย

“ตอนทำงานประจำ ใช้ความสามารถกับสิ่งที่อยู่ในสมองทำงาน ไม่ได้เป็นนักลงทุนเอง จึงไม่มีความเสี่ยง ครั้นพอมาทำงานอิสระ มีความเสี่ยงทางรายได้บ้างเพราะเราอาจจะไม่รู้สึกว่าเป็นเจ้าของ เมื่อทำธุรกิจเป็นของตนเอง แน่นอนว่าย่อมมีความกดดันมากกว่าเพราะลงทุนเองจึงต้องคิดและวางแผนการตลาดตลอด”

“โยคะสำหรับเด็ก มีโอกาสที่จะโต แล้วแถวนี้ยังไม่มีสตูดิโอเปิดสอน ที่สำคัญคือมีโรงเรียนนานาชาติอยู่ใกล้ๆ ด้วย ซึ่งเด็กจากโรงเรียนนานาชาติถือกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา ฉะนั้น โดยทำเลก็น่าจะผ่าน ส่วนการตลาดเราใช้เฟซบุ๊ค และก็การบอกต่อๆ กัน รวมถึงคอนเนคชั่นจากการที่เคยเข้าไปสอนโรงเรียนนานาชาติเป็นหลัก เนื่องจากธุรกิจนี้กลุ่มลูกค้าจะเฉพาะมากๆ ดังนั้น การจัดตารางเรียนจะมีความยืดหยุ่นมาก พยายามให้ตารางรองรับเวลาของเด็กๆ เป็นหลัก คือปรับไปตามช่วงเวลาการเปิดปิดเทอมของนักเรียน และในอนาคตจะขยับไปเปิดสอนสำหรับการเป็นครูฝึก เพื่อให้ เป็นสนามฝึกให้กับผู้สนใจทางด้านนี้ด้วย”

สำหรับ Baby Yoga Bangkok จะเปิดสอนสำหรับเด็กโตและเด็กเล็ก โดยถ้าเป็นวัยเด็กเล็กโยคะจะช่วยในเรื่องการนวดบำบัด ส่วนเด็กโตจะเน้นเป็นการออกกำลังกายประเภทหนึ่งที่ไม่หักโหมเกินไป เป็นการช่วยเสริมสร้างรูปร่างและจิตใจให้พร้อมกับการทำกิจกรรมและกีฬาประเภทอื่นด้วย ซึ่ง ฎาร์รักษ์ หวังว่าธุรกิจเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นแห่งนี้จะทำให้เธอสามารถสร้างสมดุลระหว่างงานและครอบครัวได้อย่างลงตัว

เรื่อง กองบรรณาธิการ

ภาพ กฤษฎา ศิลปไชย

Create by smethailandclub.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook