โบแดง! กองทุนชุมชนเมือง ต่อยอดทุน1ล้านสู่158ล้าน"ชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2"ทำได้!

โบแดง! กองทุนชุมชนเมือง ต่อยอดทุน1ล้านสู่158ล้าน"ชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2"ทำได้!

โบแดง! กองทุนชุมชนเมือง ต่อยอดทุน1ล้านสู่158ล้าน"ชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2"ทำได้!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กว่า 14 ปีที่โครงการ "กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง" ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของชนชั้นรากหญ้า ซึ่งกำกับดูแลโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ภาพรวมของโครงการทั้งหมดที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งชุมชนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว โดยเฉพาะกองทุนชุมชนเมืองที่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร มีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ บริหารจัดการไม่ดีพอจึงไม่เกิดความยั่งยืน

ทว่า...ก็ยังมีกองทุนชุมชนเมืองที่ประสบความสำเร็จให้เห็นจริงนั่นคือ กองทุนชุมชนเมือง"ปากเกร็ดร่วมใจ2" อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ด้วยทุนประเดิมเพียง 1 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนมากถึง 158 ล้านบาท มีการนำเงินกองทุนไปต่อยอดจนเกิดดอกออกผล จนทำให้วันนี้กลายเป็นสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 ที่ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นที่พึ่งยามยากสำหรับผู้มีรายได้น้อย

"บุญโฮม อินทร์ทอง" ผู้จัดการสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 (Village Bank หรือ V Bank) อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 ก่อตั้งมา 8 ปีแล้ว โดยเกิดจากการนำเงิน 1 ล้านบาท โครงการชุมชนเมืองของสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ มาต่อยอดปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่ 2 และผู้ที่ค้าขาย จากนั้นได้ขอกู้เงินจากธนาคารออมสินเพิ่มอีก 3 ล้านบาท รวมเป็น 4 ล้านบาท เพื่อก่อตั้งสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเปิดรับสมาชิกให้ฝากเงิน และขอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสถาบันการเงินทั่วไป

วันนี้ก้าวย่างสู่ปีที่ 9 มีสมาชิก 2,813 ราย มีเงินทุนหมุนเวียน 158 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินหมุนเวียนทั้งหมดเกิดขึ้นจากเงินออม เงินฝาก รวมทั้งดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิก จึงทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในชุมชนหลักร้อยล้านต่อปี แนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้ "บุญโฮม" อธิบายว่า เกิดจากการให้สมาชิกออมเงิน ฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ต่อปี ซึ่งสถาบันการเงินทั่วไปจะให้ดอกเบี้ยเพียง 0.25% บาทต่อปี ส่วนเงินฝากบัญชีประจำ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี สถาบันการเงินทั่วไปอยู่ที่ 2% ต่อปี และเงินฝากบัญชีประจำ 5 ปี ดอกเบี้ย 6% ต่อปี สถาบันการเงินทั่วไป 3% ต่อปี เงื่อนไขเงินฝากทั้งหมดจะกำหนดให้สมาชิกสามารถฝากเงินขั้นต่ำ 100,000-1,000,000 บาทต่อปี ป้องกันกลุ่มนักธุรกิจนำเงินจำนวนมากมาฝากเพื่อหวังได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสถาบันการเงินทั่วไป

สำหรับประเภทเงินกู้จะปล่อยสินเชื่อทั่วไปในอัตราดอกเบี้ย1.25%ต่อเดือน สมาชิกสามารถส่งคืนได้ทั้งรายวัน-รายเดือน โดยเงื่อนไขการขอกู้ทั่วไปจะปล่อยมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการลงทุนต่อวันของสมาชิก ซึ่งจะส่งทีมสำรวจเข้าไปดูว่าผู้ขอกู้มีการลงทุนต่อวันประมาณเท่าใด ส่วนการชำระคืนลูกค้าสามารถเลือกได้ตามสะดวกว่าจะชำระเป็นรายเดือนหรือรายวัน แต่ส่วนใหญ่จะให้ชำระเป็นรายวัน ใช้รูปแบบเดียวกับเงินกู้นอกระบบ

นอกจากนั้น ยังให้บริการสินเชื่ออีก 6 ประเภท ได้แก่ 1.สินเชื่อเพื่อการลงทุนค้าขาย (แปลงสินทรัพย์เป็นทุน) โดยประเมินสินทรัพย์จากแผงขายของว่ามีมูลค่าเท่าใด มูลค่าการลงทุนต่อวัน สมาชิกสามารถกู้ได้ตามสินทรัพย์ที่ตนเองมีอยู่ 2.สินเชื่อโครงการบ้านมั่นคง (สัญญาที่ดินวัด) ประชาชนในปากเกร็ดส่วนใหญ่เช่าที่ดินวัด หากจะมาขอสินเชื่อก็นำสัญญาเช่า และกรรมการวัดมาเป็นพยาน 3.สินเชื่อเพื่อการศึกษา (บุคคลค้ำประกัน) โดยจะให้ครอบครัวละ 30,000 บาทต่อเทอม จะต้องนำใบเสร็จมายืนยัน

4.สินเชื่อเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ (เสื้อวินแปลงเป็นทุน) จะให้วินมอเตอร์ไซค์นำเสื้อมาขอสินเชื่อได้ครึ่งหนึ่งของราคาเสื้อวิน 5.สินเชื่อสามล้อเครื่องรับจ้าง (ทะเบียนแปลงเป็นทุน) สามารถนำทะเบียนรถมาขอสินเชื่อได้ และ 6.สินเชื่อคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา (คอมพิวเตอร์แปลงเป็นทุน) ให้สมาชิกสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ผ่านสถาบัน และผ่อนจ่ายรายงวด

ทั้งนี้ สินเชื่อทั้งหมดเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ดีกว่าดอกเบี้ยจากเงินกู้นอกระบบร้อยละ 20 ซึ่งก่อนหน้านี้สมาชิกประสบปัญหาเป็นหนี้นอกระบบ ขณะที่หนี้เสียหรือเอ็นพีแอลแทบไม่มี ถ้าใครเป็นหนี้เกิน 3 วันก็จะหักเงินออม ปัจจุบันปัญหาลดลงและสามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้ 90% คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีสวัสดิการต่าง ๆ มากมาย เช่น นอนโรงพยาบาลจ่าย 1,000 บาท/ครั้ง คลอดบุตรจ่าย 1,000 บาท/ครั้ง เสียชีวิตจ่าย 30,000 บาท/คน โดยสมาชิกต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน 300 บาท/ปี และยังมีเงินปันผลจากกองทุน อีกทั้งยังมีโครงการอบรมวิชาชีพ รวมทั้งหาตลาดให้กับสมาชิกด้วย

จากการสอบถามสมาชิกอาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างและแม่ค้า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากเป็นสมาชิกกองทุนคุณภาพชีวิตดีขึ้น ภาวะหนี้สินลดลง ไม่ถูกคุกคามจากเงินกู้นอกระบบ มีเงินออมเพื่ออนาคต และมีเงินส่งให้บุตรเรียนสูง

นับเป็นผลงานชิ้นโบแดงของสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 ที่สามารถต่อยอดและบริหารจัดการกองทุนชุมชนเมือง จากทุนประเดิมเพียง 1 ล้านบาท และเกิดดอกออกผลถึง 158 ล้านบาท เป็นโมเดลความสำเร็จที่ไม่อาจมองข้าม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook