"ผัก-ผลไม้"จัดให้ส่งถึงบ้าน "ซูเปอร์มาร์เก็ต"ยุคดิจิทัล

"แฮปปี้เฟรช" เอาใจแม่บ้านยุคใหม่ ผุดบริการสั่งซื้อสินค้าจาก "ซูเปอร์มาร์เก็ต" ส่งถึง "บ้าน" เจาะตลาดในกรุงเทพฯและปริมณฑล คิดค่าส่ง 80 บาท/ครั้งไม่มีขั้นต่ำ สั่งเกิน 1,500 บาทส่งฟรี ประเดิมจับมือกับ 2 ห้างดัง "เดอะมอลล์-ตั้งฮั่วเส็ง"นำร่อง พร้อมเร่งมือขยายเครือข่ายการให้บริการ-เพิ่มจำนวนสินค้า ก่อนสยายปีกบุกไต้หวัน

นายมาคัส บีฮ์ลอร์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง "แฮปปี้เฟรช" ผู้ให้บริการซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตส่งถึงบ้าน กล่าวว่า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าสด รวมถึงสินค้าอื่น ในซูเปอร์มาร์เก็ต จึงได้สร้างแพลตฟอร์มบริการรับซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมส่งที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย เมื่อเดือน ต.ค. 2557 มีการใช้งานเติบโตเป็นเท่าตัวทุกเดือน เพราะไม่มีคู่แข่ง ขณะที่ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้โอกาสทางธุรกิจค่อนข้างเปิดกว้าง

"เราต้องการเติมเต็มความสะดวกในการซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตจึงนำโมเดลนี้ไปหาซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆเพื่อสร้างพันธมิตร ปัจจุบันมีมากกว่า 30 ซูเปอร์มาร์เก็ต มีสินค้าในระบบกว่า 60,000 รายการ ซึ่งความแตกต่างของแฮปปี้เฟรชกับอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ คือการมีผู้เชี่ยวชาญในการเลือกซื้อสินค้าในทุกซูเปอร์มาร์เก็ต รวมกับพนักงานส่งกว่า 100 คน ทำให้บริษัทสามารถระดมทุนจาก Vertex บริษัทในเครือเทมาเส็ก และกลุ่มซินาร์จากอินโดนีเซียกว่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อ ก.ย. 2558"

ด้านนางศิริภา จึงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้เฟรช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ยอดขายสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยคิดเป็น 1-2% ของมูลค่าค้าปลีก น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ที่ 8% จึงตัดสินใจเข้ามาทำตลาดเป็นประเทศที่ 3 เมื่อเดือน ส.ค. โดยร่วมกับกลุ่มเดอะมอลล์และตั้งฮั่วเส็ง ในการนำผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกซื้อสินค้าไปประจำแต่ละแห่งเฉลี่ยที่ละ 10 คน พร้อมนำข้อมูลราคาสินค้าไปแสดงในเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น มีทั้งสูง และต่ำกว่าราคาขายปกติเล็กน้อย

"พื้นที่บริการครอบคลุมกรุงเทพฯ 60% และบางส่วนของจังหวัดนนทบุรี โดยร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตของห้างใหญ่ 2 ราย และขยายให้ได้ 13-14 รายภายในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ 90% รวมถึงเพิ่มจำนวนสินค้าในระบบ เพื่อเป็นมาร์เก็ตเพลซขนาดใหญ่ มีพนักงานออฟฟิศ หรือแม่บ้านในกรุงเทพฯราว 1-2 ล้านคน เป็น กลุ่มเป้าหมายแรก โดยเน้นทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก"

สำหรับบริการสั่งซื้อสินค้าของ "แฮปปี้เฟรช" จะไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ และระยะเวลาในการสั่งซื้อล่วงหน้า แต่คิดค่าส่ง 80 บาท กรณีสั่งซื้อสินค้าไม่ถึง 1,500 บาท หากเกินกว่านี้จัดส่งฟรี และถ้าส่งสินค้าภายใน 1 ชม. คิด 150 บาท เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งานมากขึ้น จึงมีโปรโมชั่นส่งฟรี 1 เดือน เมื่อสั่งซื้อสินค้าเกิน 500 บาท เฉพาะผู้ลงทะเบียนใหม่ และถึงสิ้นปีจะคิดราคา 35 บาท เมื่อซื้อสินค้าต่ำกว่า 750 บาท เกินกว่านั้นส่งฟรี โดยระยะเวลาสามารถกำหนดได้ระหว่างสั่งซื้อ รวมถึงการชำระเงินทำได้ทั้งบัตรเครดิตและชำระเงินปลายทาง

"เราจะสร้างออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ในไลน์ เพื่อให้เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้บริโภคได้สะดวกขึ้น คาดว่าจะเสร็จภายในปีนี้ ส่วนเป้าหมายทั้งเรื่องรายได้และจำนวนผู้ใช้ในประเทศไทยยังไม่ได้กำหนดตัวเลข เนื่องจากต้องการเน้นไปในเรื่องการบริการลูกค้ามากกว่า และภายในเดือน ต.ค.นี้จะขยายตลาดไปที่ไต้หวัน หลังได้รับการสนับสนุนเงินทุนก้อนแรก"