ชีวิตดีดี้ของคนไทย กำลังจะหายไป

ชีวิตดีดี้ของคนไทย กำลังจะหายไป

ชีวิตดีดี้ของคนไทย กำลังจะหายไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากที่เห็นหลายคนเคยมีชีวิตที่ดี แต่ตอนนี้อาจต้องเปลี่ยนไป มีแต่คำบ่นจากเหล่าคนทำงาน คนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมเดี๋ยวนี้สินค้าราคาแพงขึ้น ข้าวของอุปโภคบริโภคมีแต่ ขึ้นราคา มีแต่ค่าครองชีพเท่านั้นที่สูง แต่ค่าแรงหรือรายได้ของเรากับเท่าเดิมไม่ขยับ เหตุผลสำคัญมาจากต้นทุนของผู้ประกอบการที่สูงขึ้นเนื่องจากธุรกิจต่างๆ ต้องใช้ไฟฟ้า และสาเหตุนี้เป็นต้นเหตุสำคัญว่า แล้วทำไม เราก็มีโรงงานไฟฟ้า มีเขื่อนผลิตไฟฟ้า แต่ทำไมเราถึงค่าครองชีพเราถึงสูงมันเพราะอะไรกันแน่

สาเหตุหลักเลย คือ ปัจจัยการผลิตไฟฟ้าของเมืองไทย กำลังจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของ พี่น้องชาติไทย โดยตอนนี้ประเทศไทย มีการผลิตจากหน่วยงานของรัฐเอง คือ กฟผ. 15,482 เมกะวัตต์ นอกนั้นเป็นจากภาคเอกชนและที่เราต้องซื้อในต่างแดนอีก 19,186 เมกะวัตต์ ซึ่งรวมทั้งหมดในประเทศมีกำลังผลิต 34,668 เมกะวัตต์ โดยเรามีความต้องการ ใช้ไฟ 26,942 เมกะวัตต์ ถึงแม้วันนี้ดูเหมือนเพียงพอ แต่ในอนาคต หากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้น

ข้อมูลจาก : http://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=348&Itemid=116

อุณหภูมิในประเทศที่สูงขึ้น และพฤติกรรมของคนไทยด้วยที่เอะอะร้อนหน่อยก็ต้องเปิดแอร์ เบื่อหน่อยไม่มีไรทำก็เปิดคอมทิ้งไว้ดูหนัง ดู Series แล้วเป็นแบบนี้กันทุกคนมันจะพอกันได้ไง และการเกิดของประชากรที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้การใช้ไฟฟ้าก็ต้องสูงตามไปด้วย หากเรามองตัวเลขความต้องการการใช้ไฟในปัจจุบันเท่านั้น จริงอยู่ ตอนนี้การผลิตไฟกับความต้องการใช้ไฟยังไม่ได้อยู่ในสถานะขาดแคลน แต่อย่าลืมมองเผื่อไปในอนาคต อีก 5 – 6 ปี ข้างหน้า ซึ่งเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประชากรจะเพิ่มขึ้น

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จะนำมาซึ่งการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน แต่ถ้าเรายังสามารถผลิตไฟได้เท่าเดิม เพราะไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มได้ คราวนี้แหละ จะเข้าสู่ภาวะการขาดแคลนไฟฟ้าจริงๆ แล้วล่ะครับ


หากดูจากต่างประเทศ หรือประเทศระดับโลกอย่าง เยอรมัน และ สหรัฐอเมริกา ประเทศยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมของโลก และเป็นผู้นำในด้านการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีความต้องการไฟฟ้าอย่างมหาศาล มากกว่าไทย 5 เท่า เขาเอาไฟฟ้ามาใช้จากไหน ประเทศเหล่านี้เขาใช้พลังงานฟอสซิล หลักๆ คือ ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินนั้น สร้างกำลังผลิตไฟฟ้าได้สูงมาก สูงกว่า พลังงานน้ำและพลังงานลม และที่สำคัญอย่างประเทศเหล่านี้ เขาเป็นประเทศที่ห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่ของประชากร การจะสร้าง โรงไฟฟ้าต้องไม่สร้างมลพิษ และเน้นลดการผลิตก๊าซภาวะเรือนกระจก แต่ก็ยังจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและก๊าซเพิ่มขึ้นอีก 17 โรง

มาดูสัดส่วนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของเยอรมันในปี 2014 ประกอบด้วย ถ่านหิน 24% นิวเคลียร์ 8 % พลังงานหมุนเวียน 11% ก๊าซธรรมชาติ 20% ปิโตรเลียม 35% อื่นๆ 2% ส่วนของไทยนั้นปัจจุบันใช้ก๊าซเป็นหลัก เกือบ 70% ซึ่งก๊าซนั้นผลิตไฟฟ้าได้น้อยมากเมื่อเทียบกับ ถ่านหิน แต่ความสะอาดนั้น พลังงานถ่านหินสะอาดมากแล้วเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้เลยว่า สามารถควบคุมมลภาวะได้ดีกว่าที่กฏหมายกำหนดแน่นอน และที่ต่างประเทศนิยมใช้กันมาก และที่บอกว่าบางประเทศยกเลิกถ่านหินแล้ว ถ้าไม่อ่านข้อมูลดีๆ จะไม่รู้ว่า เขายกเลิกโรงเก่าที่หมดอายุ และมาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เทคโนโลยีสะอาดแทนต่างหาก

แล้วแบบนี้ทำไมเราไม่ลองเปิดใจให้กับเทคโนโลยีใหม่ เหมือนต่างประเทศกันดูบ้างละ เขาเริ่มกันมานานแล้ว ทำไมเราต้องมาล้าหลังกันด้วย ที่กลัว ที่ต่อต้านกันว่าทำโรงไฟฟ้าถ่านหินจะไม่สะอาด แต่ไม่กลัวว่าเราจะไม่มีกินกันหรอ อย่างที่เขาบอกว่า คนต่างชาติทำงาน 7 วัน ซื้อไอโฟน 6S ได้ แต่คนไทยต้องทำงานทั้งเดือน ห้ามกิน ห้ามใช้เพื่อมาเก็บเงินซื้อ ไอโฟน 6S อะไรที่ทำให้ค่าครองชีพเราถูกลง เราก็ควรสนับสนุน ผู้ประกอบการจากที่ต้องจ่ายค่าไฟแพงก็จ่ายค่าไฟฟ้าที่ถูกลง เพื่อไปเพิ่มเงินให้พนักงานดีกว่าไหม

สาเหตุเหล่านี้มันผูกกันเป็นวัฏจักรกันอยู่ ลองคิดซะหน่อยนะพี่น้อง เพื่อให้เมืองไทยของเราเป็นเมืองที่น่าอยู่ ค่าครองชีพไม่สูง และประชากรก็มีรายได้ที่มากขึ้น อย่าปล่อยให้เรื่องนี้หยุดเพียงแค่ คิดว่าไม่เกี่ยวกับเรา เราทุกคนมีส่วนผลักดันประเทศ

เครดิต http://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=827&catid=32&Itemid=230

Advertorial

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook