เล็งจัดการเว็บเถื่อน! พาณิชย์ล้อมคอกสินค้าออนไลน์ เตือน ระวังกว่า 5 แสนเว็บ

นายวิชัย โภชนกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการติดตามและตรวจสอบการค้าขายสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ พบว่าการร้องเรียนเรื่องการฉ้อโกงเรื่องการค้าขายออนไลน์เริ่มลดลงผู้ค้าขายออนไลน์มีการเอาใจใส่ผู้บริโภคมากขึ้น หลังจากที่กรมมีการเข้มงวดเข้าไปดูแล และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และเมื่อรับเรื่องแล้วก็ได้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษี และส่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เอาผิดตามกฎหมายขายตรง

ขณะเดียวกันกรม ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการค้าขายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทัวร์ ทั้งที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน เพราะมีการหลอกลวงโดยใช้กลยุทธ์ราคาถูก จึงมีผู้หลงเชื่อไปซื้อสินค้าและบริการเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้รับบริการจริง ส่งผลให้ยอดเสียหายมีมูลค่ารวมสูง

ทั้งนี้ปัจจุบันมีนิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่ทำการค้าออนไลน์ ผ่านทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไอจี ทวิตเตอร์ รวมแล้วกว่า 500,000 ราย แต่มีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดามายื่นจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ DBD Registered เพื่อยืนยันตัวตน เพียงแค่ 13,584 ราย และ 15,363 เว็บไซต์ ซึ่งถือว่ามีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ค้าขายที่มีอยู่ทั้งระบบ จึงขอแนะนำให้ผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ มาแจ้งขึ้นทะเบียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจ ยืนยันความมีตัวตน สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ และเพื่อให้การซื้อขายออนไลน์ของไทยมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ขณะเดียวกันอยากเตือนประชาชนที่ซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ กับผู้ขายที่ไม่ขึ้นทะเบียน เพราะอาจถูกฉ้อโกง มีโอกาสถูกหลอกลวงสูงจากผู้ค้าเถื่อนได้ ดังนั้นหากประชาชนจะซื้อขายสินค้าออนไลน์ ควรมีการเช็คว่าผู้ที่จะทำการซื้อขายนั้นมีการขึ้นทะเบียนถูกต้องหรือไม่ หากไม่มีการขึ้นทะเบียน ขอให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเป็นพวกค้าขายเถื่อน ไม่มีตัวตนในระบบ และอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกฉ้อโกงได้ง่าย ซึ่งที่สำคัญจะไม่สามารถติดตามตัวผู้ขายได้

สำหรับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซขอให้จดทะเบียนพาณิชย์ให้ถูกต้อง หากฝ่าฝืนไม่จดทะเบียนภายใน 30 วัน จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์พ.ศ.2499 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากยังฝ่าฝืนอีกจะมีโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 100 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง และผู้ใดไม่จดทะเบียนต่อ สคบ. จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงพ.ศ.2545 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน