ปีหน้ามาตามนัด-เก็บภาษีบ้านที่ดิน คลังรอจังหวะประกาศใช้-เชื่อรายได้ปี′59 ตามเป้า
คลังมั่นใจรายได้ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 2.35 ล้านล้านบาท ทำได้ตามเป้า เพราะส่วนหนึ่งจะมีเงินจากการประมูล 4 จี มาเป็นรายได้ด้วย ส่วนปีหน้าใช้แน่ภาษีบ้าน-ที่ดิน รวมถึงภาษีสิ่งแวดล้อม แต่ต้องดูเวลาการประกาศเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปภาษี กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เสนอแผนปฏิรูปภาษีทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดของภาษีต่างๆ ที่จะดำเนินการภายในปีหน้า โดยกำหนดเวลาให้มีผลบังคับใช้อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเศรษฐกิจ
สาระสำคัญที่จะเสนอจะเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนกรมสรรพสามิตจะเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันจะยกเลิกจัดเก็บภาษีบางตัวที่ไม่จำเป็น เพื่อลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้จะลดภาษีบุคคลธรรมดา โดยปรับลดอัตราจัดเก็บจากสูงสุด 35% ให้ลดลง เพื่อจูงใจผู้เสียภาษีเข้ามาในระบบ รวมทั้งเพิ่มหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายจาก 40% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 6 หมื่นบาท ให้มากขึ้นกว่าเดิม
"อย่างไรก็ตามจะพิจารณาอย่างเข้มงวดในการหักลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะเรื่องการบริจาค ซึ่งจะพิจารณาว่าควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ หลังจากพบว่าบางส่วนไม่ได้บริจาคจริงแต่นำมาหักลดหย่อนภาษี ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ ซึ่งหากจะให้หักค่าบริจาคต่อไป กรมสรรพากรต้องตรวจสอบได้ว่าผู้นำมาขอลดหย่อนนั้นมีการบริจาคจริง"
นอกจากนี้การปฏิรูปภาษีจะเสนอให้ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บโดยให้นิติบุคคลทำบัญชีเดียว เริ่มดำเนินการระบบใช้จ่ายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-เพย์เมนต์ ให้สามารถหักการเสียภาษีได้ทันที รวมถึงการติดตามจัดเก็บภาษีจากการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งทางกรมสรรพากรและกรมศุลกากรต้องร่วมมือกัน ในส่วนของกรมศุลกากร หากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ต้องดูแลจัดเก็บภาษีนำเข้าให้ได้ ขณะที่กรมสรรพากรดูแลลูกค้าออนไลน์ในประเทศเพื่อจัดเก็บภาษี
แผนปฏิรูปภาษีจะเน้นให้เกิดความเป็นธรรมของผู้เสียภาษี เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ให้มีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย เพื่อรองรับเศรษฐกิจในอนาคต
สำหรับรายได้ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 2.35 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากภาษี 90% เชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งจะมีเงินจากการประมูล 4 จี ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ที่จะส่งเข้าคลังมาเป็นรายได้แผ่นดินในปีงบประมาณนี้
ที่มา : นสพ.ข่าวสด