แก้ปัญหา หนี้บัตรเครดิต ง่าย ๆ ไม่นานก็หมดหนี้ !
เรื่องปัญหา หนี้บัตรเครดิต สมัยปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คนมักจะเป็นกัน และส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับวัยที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือวัยที่ทำงานมาแล้วสักพักหนึ่ง เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้เกิดหนี้นั่นก็คือ เมื่อเราใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต เราจะไม่ได้มองเห็นเงินที่เราจ่ายไป เราจะเห็นเพียงแค่ตัวเลขและบิลเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้สึกสะเทือนอะไรเท่าไร และเราจะรู้ตัวอีกทีเมื่อมีบิลเรียกเก็บเงินส่งมาที่บ้าน
ตัวการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ หนี้บัตรเครดิต นั่นคือพวกโปรโมชั่น 0% 10 เดือน นี่แหละ ตัวการชั้นเยี่ยม ที่ทำให้เรา ๆ ทั้งหลายเป็นหนี้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ กระเป๋า แพ็จเกจเสริมความงามต่าง ๆ เมื่อตอนที่ตัดสินใจซื้อนั้นก็คิดว่าตัวเองจะจ่ายไหว แต่พอบิลออกมาแต่ละเดือนลมแทบจับ
ในสมัยที่เราเรียนหนังสือนั้น อิสรภาพทางด้านการเงินนั้นเป็นเรื่องที่คนเราไม่ค่อยมี เพราะในวัยนั้นเราต้องเป็นผู้ขอซึ่งมีพ่อแม่เป็นผู้ให้ แต่เมื่อเราเริ่มทำงานความรู้สึกที่ได้รับครั้งแรกเมื่อมีเงินเดือนนั่นก็คือ “เรามีอิสระทางด้านการเงินแล้ว” ทำให้การจับจ่ายใช้สอยนั้นไม่ทันระวัง รวมไปถึงการมีบัตรเครดิตด้วย หากเรามองเรื่องนี้ดี ๆ เราจะรู้ว่าบางคนนั้นมีหนี้บัตรเครดิตที่มียอดเงินค่อนข้างสูงถึงหลายแสนบาทเลยทีเดียว ซึ่งยังมีดอกเบี้ยอีกต่างหาก ฟังดูโหดร้ายเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้เรามีข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการปลดหนี้บัตรเครดิตง่าย ๆ มาฝากกัน
• สร้างความมั่นใจให้ตัวเองเสียก่อนว่าหนี้ที่เป็นนั้น “เกิดจากตัวฉัน และฉันจะเป็นคนจัดการกับมันเอง”
เพราะหนี้เหล่านี้เกิดจากการใช้จ่ายที่ไม่ทันระวังของเรา ทำให้เรานั้นกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนี้ หากเราท้อถอยการปลดหนี้นั้นก็จะยากขึ้น ดังนั้นสร้างศรัทธาให้ตัวเองก่อน
• ทำรายรับ-รายจ่าย
ให้เราเขียนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า แต่ละเดือนนั้น มีรายรับเท่าไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไร เมื่อเราเห็นรายการเหล่านี้ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว สิ่งที่ตามมาจะทำให้เรานั้นตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ เช่น ทุก ๆ วันจะต้องมีค่ากาแฟแก้วละ 50 บาทเป็นประจำรวม ๆ แล้ว 1 เดือนก็หลายบาทอยู่ เราอาจจะตัดรายจ่ายตรงนั้นออกไป เพื่อให้มีเงินมาใช้หนี้ได้มากขึ้น
• สำรวจภาระหนี้สิน
ว่าตัวเองนั้นเป็นหนี้ที่ไหนเท่าไร รวมไปถึงเขียนดอกเบี้ยออกมาให้ชัดเจนด้วยว่าดอกเบี้ยแต่ละที่นั้นเท่าไร เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าแต่ละเดือนนั้นเราต้องผ่อนจ่ายอันไหนก่อนหลัง ขอแนะนำว่าให้รีบสะสางหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ๆ ก่อน ได้แก่ พวกบัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคล เรียงตามลำดับให้ชัดเจน เพราะยิ่งเราชำระได้เร็วเท่าไร ดอกเบี้ยก็จะน้อยลงเท่านั้น ลองจัดสรรเรียงลำดับก่อนหลังให้ดี
• หยุดวงจรแห่งหนี้สิน
เรื่องนี้หลายคนอาจจะรู้ดี เมื่อเราวางแผนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าหนี้ก้อนนี้เราจะจัดการมันให้หมดไปจากชีวิต สิ่งต่อมาคือเราจะไม่ก่อหนี้เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อมาชำระหนี้ หรือการนำบัตรเครดิตไปใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะการกระทำเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มให้มีหนี้มากขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะคิดว่าหนี้ที่มีอยู่นั้นเยอะพอสมควร แต่การที่เราไม่สร้างหนี้เพิ่มนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี และแน่นอนว่ามันจะหมดไปในที่สุด ให้ยึดหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเอาไว้ เพื่อที่จะได้หมดหนี้โดยเร็ววัน
• ปรึกษากับเจ้าหนี้
นี่เป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่ง หากคุณคิดว่าในการผ่อนหนี้สินแต่ละเดือนนั้นรายรับกับรายจ่ายเริ่มไม่สมดุลกัน ให้ลองคุยปรึกษากับเจ้าหนี้ดูว่าจะช่วยกันยืดหยุ่นอย่างไรได้บ้าง เช่น การขอลดจำนวนเงินผ่อนชำระในแต่ละเดือน การขอลดดอกเบี้ย การขอจ่ายหนี้โดยที่ไม่มีดอกเบี้ยในระยะเวลาหนึ่ง เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการขอยืดอายุหนี้ เช่นจาก 10ปี เป็น 15 ปี เป็นต้น เพื่อให้แต่ละเดือนของคุณนั้นดูจะไม่อึดอัดจนเกินไป
• การหางานเพิ่ม
เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่ละเดือนนั้นเราต้องชำระหนี้เท่าไรและรายได้เรามีเท่าไร การที่จะหารายได้เพิ่มด้วยการทำงานเสริม เช่น ขายของตลาดนัด การขายประกัน การสอนพิเศษ อาจจะเป็นอีกทางหนึ่งในการจะหาเงินมาชำระหนี้ให้หลุดพ้นไปโดยเร็วขึ้น แต่การที่เราจะทำงานเพิ่มนั้นต้องไม้เป็นการไปสร้างหนี้หรือภาระอะไรให้กับตัวเองอีก เท่านี้ภาระหนี้สินที่คุณเป็นอยู่ก็จะค่อย ๆ เบาลงจนหมดไปในที่สุด
แน่นอนว่า ทุกคนไม่มีใครหรอกที่อยากให้ตัวเองเป็นหนี้ ยิ่งหนี้บัตรเครดิตด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะที่เรารู้ ๆ กันนั่นคือ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นไม่เคยมีคำว่าธรรมดาเลย อยู่ที่ 15-20 % ถือว่าแพงมาก เมื่อเราเริ่มรู้จักกับการใช้บัตรเครดิต และมีขอบเขตการใช้งานที่ดี ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องมาติดวังวนแห่งหนี้สินอีกต่อไป
ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ แล้วที่สำคัญต้องบอกก่อนเลยว่า อย่าพยายามสร้างหนี้เพิ่มให้กับตัวเองเป็นอันขาด เพราะการเป็นหนี้นั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการป่วยเป็นโรคร้าย ดังนั้นบริหารให้ดีจะมีสุขนะจ๊ะ
บทความนี้เป็น Advertorial
สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub