อยาก เพิ่มวงเงินบัตรเครดิต ต้องทำไง ?

ผู้ที่ใช้บัตรเครดิตอยู่ บางคนไม่เดือดร้อนมาก เพราะทำบัตรเครดิตมาเพื่อที่จะเอาไว้ใช้จ่ายแทนเงินสด หรือใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งหากเป็นคนที่มีฐานะ มักจะไม่ค่อยพกเงินสด แต่จะพกบัตรเครดิตแทน เมื่อถึงเวลารอบบิลก็จะนำเงินสดที่มีอยู่ไปจ่ายแบบเต็มจำนวน ทำให้ไม่มีดอกหรือมียอดค้างชำระใดๆ ผิดกับมนุษย์เงินเดือน หรือคนที่อยากจะมีบัตร เพื่อนำไปผ่อนสินค้าและเมื่อถึงรอบบิล อาจจะไม่มีเงินจ่ายเต็ม แต่จะจ่ายแบบขั้นต่ำแทน 

เหตุผลที่ต้องการ เพิ่มวงเงินบัตรเครดิต
หลายคนที่ใช้บัตรเครดิตได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เจ้าของบัตรเครดิตมักจะประสบปัญหาวงเงิน ไม่เพียงพอต่อการใช้ จากที่ได้รับอนุมัติจากสถาบันการเงินในตอนแรก รวมถึงในกรณีฉุกเฉินจากเจ้าของบัตรที่มีความต้องการใช้เกินวงเงิน สำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาล รวมถึงหากจำเป็นที่จะต้องทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งทางสถานพยาบาลจะทำการขอบัตรเครดิตคุณเพื่อเป็นเงินประกัน และหากวงเงินในบัตรไม่เพียงพอกับเงินประกัน อาจจะทำให้ทางสถานพยาบาล ปฏิเสธการรักษาได้

หรือหากเดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ต้องการพกเงินสดติดตัวเยอะ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสี่ยงต่อการโจรกรรมหรือสูญหายได้ ซึ่งผู้ถือบัตรเครดิตสามารถที่จะทำเรื่องการขอวงเงินเพิ่ม กับสถาบันการเงินได้เป็นครั้งคราว แต่เมื่อเดินทางกลับมาวงเงินก็จะถูกลดลงให้เหลือเท่าเดิม ซึ่งผู้ขอเพิ่มวงเงินแบบฉุกเฉินสามารถติดต่อกับสถาบันการเงิน หรือธนาคารเพื่อขอยกเลิกวงเงินที่เพิ่มขึ้นทันที่เมื่อ เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

การขอวงเงินเพิ่มแบบถาวร
หากคุณมีความประสงค์ที่จะขอ เพิ่มวงเงินบัตรเครดิต แบบถาวร สามารถที่จะทำได้ คือเจ้าของบัตรเครดิต จะสามารถทำการแจ้งความประสงค์ได้ที่สถาบันการเงิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ออกบัตรเครดิต โดยสามารถทำได้ทุกสาขาที่สามารถเดินทางสะดวก แต่หากเป็นไปได้ควรที่จะเดินทางไปที่สาขาที่เคยทำการออกบัตรเครดิตใบนั้นจะดีกว่า เพราะจะทำให้การดำเนินเรื่องสะดวกขึ้น หรือหากไปที่อื่น อาจจะมีเอกสารไม่ครบถ้วน

ส่วนเอกสารที่จะต้องจัดเตรียม ประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชนพร้อมลงลายมือชื่อ สำเนาถูกต้อง และควรจะเป็นลายเซ็นต์ที่ตรงกับลายเซ็นต์บนหลังบัตรเครดิต และหากในกรณีที่จะใช้เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ ควรจะใช้ลายเซ็นที่ตรงกับหน้าหนังสือเดินทาง เพราะในกรณีที่จะทำการเช็คอินเข้าโรงแรม ทางโรมแรมก็จะขอดูบัตรเครดิตพร้อมกับหนังสือเดินทาง โดยจะดูว่าลายเซ็นหลังบัตรเครดิตนั้นตรงกับลายเซ็นในหนังสือเดินทางหรือไม่

และการเซ็นต์ชื่อบนหลังบัตรเครดิตถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และไม่ควรเป็นลายเซ็นต์ที่ง่ายต่อการปลอมแปลงโดยเด็ดขาด เพราะในกรณีที่บัตรเครดิตสูญหาย อาจจะถูกมิจฉาชีพ สามารถนำไปปลอมแปลงลายเซ็นเพื่อรูดซื้อสินค้าได้ โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตจะต้องรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น แถมนานจนกว่าทางสถาบันการเงินจะทำการตรวจสอบว่าบัตรเครดิตได้ถูกนำไปใช้โดยมิจฉาชีพจริงหรือไม่

นอกจากสำเนาบัตรประชาชนแล้ว เอกสารบัญชีหรือใบรับรองเงินเดือนของคุณที่แสดงรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นของผู้ขอเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิต ซึ่งเป็นเอกสารที่จะต้องเตรียมและควรจะเป็นเอกสารด้านการเงินล่าสุด หรือย้อนหลังไปอย่างน้อยหกเดือน

การตรวจสอบก่อนทำการเพิ่มวงเงิน
ทางสถาบันการเงินจะตรวจสอบรายได้ว่าบัญชีของคุณมีการเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังจากที่สมัครบัตรในครั้งแรก และหากเอกสารด้านการเงินไม่มีการเพิ่มขึ้นของเงินเดือน อาจจะทำให้ทางสถาบันการเงินไม่อนุมัติการขอเพิ่มวงเงิน แต่ทางสถาบันการเงินอาจจะขอให้เจ้าของบัตรเครดิต ได้วางเงินฝากแบบประกันไว้ ซึ่งจะเป็นเงินประกันที่เจ้าของบัตรเครดิตจะได้รับคืนเมื่อมีการยกเลิกการขอเพิ่มวงเงินในแบบฉุกเฉิน

แต่ในกรณีที่ต้องการขอเพิ่มวงเงินแบบถาวรนั้น ทางสถาบันการเงินจะขอเงินประกันด้วยเช่นกัน และเจ้าของบัตรเครดิตจะไม่สามารถนำเงินประกันไปใช้ได้เลย จนกว่าจะมีการยกเลิกใช้บัตรเครดิตใบนั้น โดย เหตุผลที่สถาบันการเงินนั้น ต้องการให้ผู้ขอเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิตวางเงินก่อน เพื่อที่จะป้องกันในกรณีที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่สามารถนำเงินมาจ่ายชำระค่าบัตรเครดิตคืนได้ ซึ่งทางสถาบันการเงินจะทำการยึดเงินประกันนั้นไว้ก่อน แต่หากมีการชำระหนี้บัตรเครดิตจนครบต้นและครบดอกเบี้ยแล้ว ทางสถาบันการเงินก็จะทำการคืนเงินประกันให้ในภายหลัง

ขั้นตอนสุดท้ายก่อนให้วงเงินเพิ่ม
เมื่อทำการยื่นคำขอวงเงินเพิ่มแล้ว ทางสถาบันการเงินจะทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่คุณได้ทำการยื่นขอมาและหากยื่นเอกสารครบถ้วนแล้ว ก็จะทราบผลอนุมัติภายใน 4 วันทำการ แต่หากได้รับการอนุมัติทางสถาบันการเงินจะทำการแจ้งผลผ่านทาง ระบบ SMS หรือ อาจจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปที่เบอร์โทรศัพท์ ที่ผู้ถือบัตรเครดิตให้ไว้ แต่หากเป็นกรณีฉุกเฉินทาง สถาบันการเงินเองก็สามารถที่จะทำการอนุมัติได้ทันที และหากเป็นแบบขอวงเงินชั่วคราว ซึ่งจะมีระยะเวลาของวงเงินที่เพิ่มขึ้น แต่สถาบันการเงินจะกำหนดระยะเวลาของวงเงินที่เพิ่มขึ้น จากนั้นจะทำการตัดยอดลดลงทันทีเมื่อถึงระยะเวลาที่ กำหนดไว้

ในส่วนของวงเงินที่จะได้รับอนุมัติเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางฝ่ายสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีหลักการพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประวัติการใช้บัตรซึ่งหากมีการใช้จ่ายอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ หมายถึงไม่ใช้บัตรเครดิตแบบเต็มวงเงิน หรือไม่ใช้เกินวงเงิน ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติการขอเพิ่มวงเงินของสถาบันการเงินนั้น จะไม่ได้พิจารณาจากการใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินทุกรอบบิล แต่จะทำการพิจารณาจากวินัยการใช้บัตรเครดิตของคุณ เพราะทางสถาบันการเงินเองก็เสี่ยงต่อการเพิ่มวงเงิน เพราะหากเพิ่มวงเงินให้แล้ว แต่ผู้ถือบัตรไม่สามารถที่จะนำเงินมาชำระหรือจ่ายค่าบัตรเครดิตได้ ย่อมมีความเสี่ยงต่อสถาบันการเงินในทุกทาง

บทความนี้เป็น Advertorial

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub