รัฐเล็งฟัน"ดีเซลเกรดพรีเมี่ยม"ขายแพง เผย ลงทุนลิตรละ50สตางค์ แต่คิดเพิ่มถึง 3บาท

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า วันที่ 18 ธ.ค.นี้ ธพ.จะหารือกับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเพื่อสอบถามความพร้อมทั้งในแง่ผู้ใช้รถและโรงกลั่นเนื่องจากธพ.เตรียมจะเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)กำหนดราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ 95 เท่ากับแก๊สโซฮอล์ 91 จากปัจจุบันที่ส่วนต่างราคายังต่างกัน 42 สตางค์ต่อลิตร ทั้งนี้หากสามารถทำเป็นราคาเดียวกันได้คาดว่าภายใน 1 ปีแก๊สโซฮอล์ 91 จะหายไปจากระบบการค้า

"นโยบายที่ผ่านมาเราพยายามทำส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ไม่ให้ต่างจาก 91 เพื่อจูงใจให้ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ในการทำให้แก๊สโซฮอล์ E 10 เหลือเพียงชนิดเดียวซึ่งจะทำให้ผู้ค้ามีหัวจ่ายเพิ่มและจะไปส่งเสริมการใช้ E 20 มากขึ้นซึ่งภาพรวมคือการเพิ่มการใช้เอทานอล และเห็นว่าผู้บริโภคจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นก็จะเสนอให้ราคาเท่ากันไปเลยแต่แง่ผู้ใช้รถ "ก็คงต้องดูว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ ส่วนโรงกลั่นจะกระทบต่อการผลิตเบนซินพื้นฐานหรือจีเบสหรือไม่ด้วยหากภาพรวมไม่มีปัญหาก็คงจะเริ่มได้เลย” นายวิฑูรย์กล่าว

นอกจากนี้ตนยังมีแนวคิดที่จะกำหนดคุณลักษณะและคุณภาพน้ำมัน(สเปกน้ำมัน)ดีเซลใหม่เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยมที่ขณะนี้มีการจำหน่ายเกือบทุกค่ายยกเว้นค่ายบางจากฯเนื่องจากเห็นว่าดีเซลปัจจุบันมีการผสมบี100 จำนวน 5% เพื่อเป็นไบโอดีเซลหรือบี 5 ซึ่งเป็นนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนในการช่วยเหลือราคาให้กับเกษตรกรชาวส่วนปาล์มแต่ ดีเซลเกรดพรีเมี่ยมเป็นการนำดีเซลมาผสมสารเพิ่มประสิทธิภาพหรือ Additives เท่านั้นจึงเป็นการสวนทางนโยบายรัฐบาล

ขณะเดียวกันยังพบว่า ต้นทุนของการเติมสารเพิ่มประสิทธิภาพในดีเซลเพื่อให้เป็นเกรดพรีเมี่ยมคิดเป็นต้นทุนเพียง 0.50 บาทต่อลิตรแต่การกำหนดราคาที่แพงกว่าดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตรนั้นเนื่องจากมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์จึงเป็นต้นทุนทางการตลาดที่สูงมาก ดังนั้นจุดนี้ถ้าประชาชนบางกลุ่มมีความรู้ไม่เพียงพอก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่อได้ธพ.จึงเห็นว่าจุดนี้ก็จะต้องคุ้มครองผู้บริโภค