สวยสะพรั่ง 2 หมื่นล้าน ค้าปลีกความงามระเบิดศึกมัดใจ

สวยสะพรั่ง 2 หมื่นล้าน ค้าปลีกความงามระเบิดศึกมัดใจ

สวยสะพรั่ง 2 หมื่นล้าน ค้าปลีกความงามระเบิดศึกมัดใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตลาดความงามมูลค่ากว่าแสนล้านยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้าปลีกความงาม ที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดอยู่ตลอด เพราะมูลค่าตลาดที่สูงถึง 2 หมื่นล้าน ล่าสุด การเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบของเชนดรักสโตร์ มัตสึโมโต้ คิโยชิ จากญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกับเซ็นทรัล ก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้เล่นเจ้าตลาดต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นซูรูฮะ, วัตสัน, บู๊ทส์, บิวตี้ บุฟเฟต์, คาร์มาร์ท ฯลฯ

การเติบโตของตลาดดังกล่าวสอดคล้องกับผลการจัดอันดับ 10 ธุรกิจเด่นในปี 58 โดยประเมินจากยอดขาย ต้นทุน การรับมือกับความเสี่ยง กำไร และกระแสความต้องการของตลาด ของ "หอการค้าไทย" ระบุด้วยว่า ธุรกิจทางการแพทย์และความงาม ยังครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2554 เพราะกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและการดูแลความงามมีมากขึ้น

เชนดรักสโตร์ญี่ปุ่นแข่งเดือด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของร้านดรักสโตร์ที่เป็นเชนจากญี่ปุ่น มีการแข่งขันกันอย่างคึกคัก ระหว่างบิ๊กแบรนด์ 2 ราย โดยนอกจากจุดเด่นในเรื่องสินค้าและบริการสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นการจับมือกับบริษัทใหญ่ ที่มีศักยภาพลงทุน ไม่ว่าจะเป็นซูรูฮะ ที่ร่วมทุนกับเครือสหพัฒน์ หรือล่าสุด มัตสึโมโตะ คิโยชิ ที่ร่วมทุนกับบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล

"เบญจมาศ ต้องประสิทธิ์" กรรมการบริหาร บริษัท ซูรูฮะ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพว่า ในปี 2559 จะเน้นกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่าง เพื่อรับมือกับการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการย้ำจุดเด่นในด้านความหลากหลายของหมวดสินค้าและบริการแบบญี่ปุ่น เช่นของใช้ในบ้าน ยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง ในรูปแบบวันสต็อปช็อปปิ้งพร้อมกับการขยายฐานลูกค้า ได้แก่ การเปิดสาขาใหม่ตามชุมชน และพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอก รวมถึงการทำตลาดในอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการเป็นวันสต็อปช็อปปิ้ง

ด้านหน้าใหม่ "จุนอิชิ ทาเทะโน่" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล และมัทสึโมโตะ คิโยชิ จำกัด กล่าวว่า จะนำจุดเด่นของสินค้าและโนว์ฮาวแบบมัตสึโมโตะ กับความแข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล ที่จะเสริมให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยจะให้น้ำหนักกับไพรเวตแบรนด์จากญี่ปุ่นและสินค้าใหม่ ๆ ทุกเดือน เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และเน้นการขยายสาขา

ศก.ซบ คนสวิตช์แบรนด์

ด้านโลคอลแบรนด์ "นพ.สุวิน ไกรภูเบศ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านบิวตี้ บุฟเฟต์, บิวตี้ คอทเทจและบิวตี้ มาร์เก็ต กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลาดความงามทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 8-9% ทำให้มีผู้เล่นจำนวนมากต้องการเข้ามาทำตลาด ส่งผลให้การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด

ซึ่งสินค้าของบิวตี้ฯถือว่าอยู่ในตลาดกลางบน เน้นคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ก็ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์ เปลี่ยนมากลุ่มนี้มากขึ้น

โดยในปี 2559 เตรียมใช้งบฯการตลาด 50 ล้านบาท และมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งบิวตี้ บุฟเฟต์, บิวตี้ คอทเทจ และบิวตี้ มาร์เก็ต โดยเฉพาะโมเดลของบิวตี้ มาร์เก็ต ที่มีสินค้าหลากหลายกว่า 300 แบรนด์นั้น ตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่

และเพิ่มน้ำหนักช่องทางออนไลน์หลังจากเปิดตัวช่องทางการสั่งซื้อไปเมื่อไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีผลตอบรับที่น่าพอใจ เพราะสามารถเข้าไปตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเพิ่มการเข้าถึงไปยังเว็บไซต์คู่ค้าต่าง ๆ ที่เป็นเติร์ดปาร์ตี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ Multichannel ของบริษัท

แห่บุกอีคอมเมิร์ซ

ทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกับร้านค้าปลีกความงามหลายรายที่หันมาเปิดช่องทางอีคอมเมิร์ซ เริ่มจากร้านวัตสัน และบิวตี้ บุฟเฟต์ ที่เปิดให้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา และร้านซูรูฮะ ที่เปิดช่องทางดังกล่าวไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม

"ร็อด เร้าท์ลี่ย์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด กล่าวว่า ได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงในออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่เสริมกับช่องทางออฟไลน์ที่จะขยายอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 50 สาขา

ด้าน "พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล" ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ช่องทางอีคอมเมิร์ซช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของผู้บริโภคและรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีเวลาจำกัดรวมถึงมีต้นทุนการบริหารจัดการที่ต่ำกว่าหน้าร้าน

นอกจากนี้ จะเน้นตลาดสินค้าสำหรับผู้ชายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเตรียมงบ 150-180 ล้านบาทสำหรับเปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงโรดโชว์เพื่อสร้างแบรนด์ในต่างจังหวัดมากขึ้น เมื่อโอกาสตลาดเปิดการแข่งขันชิงเม็ดเงิน 2 หมื่นล้านจึงระอุทุกตารางนิ้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook